มท.1 สั่ง PEA ขยายเวลาตัดมิเตอร์ไฟฟ้าจาก 1 เดือน เป็น 3 เดือน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA)

มท.1 สั่ง PEA ขยายเวลาตัดมิเตอร์ไฟฟ้าจาก 1 เดือน เป็น 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชนที่เดือดร้อน

  • ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน
  • ยึดมั่นในการร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคม

วันนี้ (1 พ.ย. 66) ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สำนักงานใหญ่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยนายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานรัฐวิสาหกิจเพื่อพัฒนาการให้บริการสาธารณูปโภคสำหรับพี่น้องประชาชน ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย เป็นฟันเฟืองสำคัญเปรียบเสมือน “เส้นเลือดใหญ่” ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ขับเคลื่อนภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทยไปสู่ประชาชน ซึ่งพวกเราทุกคนในที่นี้ก็เป็นหนึ่งในประชาชน

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

“กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับเรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะ “ด้านสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ” และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ เพื่อสร้างต้นแบบพลังงานทางเลือกให้กับประชาชน ด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อลดต้นทุนพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด โดยส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Cell และ Solar Rooftop ในสถานที่ราชการและที่อยู่อาศัย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟให้ประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนของประชาชนในการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจของทุกภาคส่วน” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA)

ดังนั้น PEA ต้องคำนึงและให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด “ที่สะอาดจริง ๆ” พร้อมทั้งทำให้เกิดความสมดุลในระยะยาว ไม่ให้เป็นภาระในการจัดการหรือการซ่อมแซม (Maintenance) รวมถึงการจัดทำแผน Carbon Neutrality Roadmap เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมุ่งสู่นโยบาย Carbon Neutrality ปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตลอดจนถึงต้องมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ในเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขอให้ PEA ได้พิจารณาขยายระยะเวลาการตัดมิเตอร์ไฟฟ้าจากปกติ 1 เดือน เป็น 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชนที่เดือดร้อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA)

ทั้งนี้ขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้พัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบไฟฟ้ามีความ “มั่นคง ปลอดภัย เชื่อถือได้” โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรให้ทันสมัยด้วยทุนมนุษย์ ทุนเทคโนโลยี และทุนนวัตกรรม สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่ต้องการขับเคลื่อนภารกิจด้วยความ “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องลดภาระของพี่น้องประชาชนให้ได้ เพื่อสามารถช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และไม่เอารัดเอาเปรียบประชาชนทุกคน ยึดมั่นในการร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคม มุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติงานด้วยเจตนารมณ์ที่จะทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างสุดความสามารถ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างยั่งยืน