อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายน สูงขึ้น 0.61 % (YoY)

เงินเฟ้อเดือนกันยายน 67
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายน สูงขึ้น 0.61 % (YoY)


ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เดือนกันยายน 2567 เท่ากับ 108.68 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2566 ซึ่งเท่ากับ 108.02 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 0.61 (YoY) โดยปัจจัยสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ผักสดบางชนิดได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ปรับเงินเฟ้อทั้งปีเป็น ร้อยละ 0.2 – 0.8

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ของไทยเดือนกันยายน 2567 เท่ากับ 108.68 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2566 ซึ่งเท่ากับ 108.02 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 0.61 (YoY) โดยปัจจัยสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งสูงกว่าช่วงเดือนเดียวกัน ของปีก่อน รวมถึงผักสดบางชนิดได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เพาะปลูก

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นร้อยละ 0.61 (YoY) ในเดือนนี้ มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้ หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 2.25 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มอาหารสด อาทิ ผักสด

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 0.77 (YoY) เร่งตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนสิงหาคม 2567 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.62 (YoY) ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกันยายน 2567 เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม2567 ลดลงร้อยละ 0.10 (MoM) ตามการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.36 ปรับลดลงตามราคาแก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซินและผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 สูงขึ้นร้อยละ 0.60 (YoY) และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สูงขึ้นร้อยละ 0.21 (QoQ) 

ดัชนีการค้าเดือนกันยายน
สรุปดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้บริโภค เฉลี่ย 9 เดือนสูงขึ้นร้อยละ 0.20

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 9 เดือน (มกราคม – กันยายน) ของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สูงขึ้นร้อยละ0.20 (AoA) แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาสที่ 4 ปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2567 โดยปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น ได้แก่ (1) ราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาท ต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน (2) ผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมในบางพื้นที่ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผักสดปรับตัวสูงขึ้น (3) สินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาค่าโดยสารเครื่องบิน ซึ่งเป็นการปรับตัวที่สอดคล้องกับฤดูกาลท่องเที่ยว

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงได้แก่ (1) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้า (ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีค่าเฉลี่ย สูงกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ระดับใกล้เคียงกับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล) ซึ่งส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ปรับตัวลดลง (2) การแข็งค่าของเงินบาททำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าลดลง โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีสัดส่วนในตะกร้าเงินเฟ้อสูง และ (3) คาดว่าผู้ประกอบการค้าส่ง – ค้าปลีกรายใหญ่จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากภาครัฐได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกไปแล้ว

ปรับเงินเฟ้อปี 67 เป็น ร้อยละ 0.2 – 0.8

ปรับเงินเฟ้อจากเดิมระหว่างร้อยละ 0.0 – 1.0 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) เป็นระหว่างร้อยละ 0.2 – 0.8 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือนกันยายน 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.6 จากระดับ 49.5 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มมาอยู่ในช่วงเชื่อมั่นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนสำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันปรับเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ43.1 จากระดับ 41.1 และดัชนี

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน 3 เดือน ข้างหน้าเพิ่มขึ้น

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 57.2 จากระดับ 55.1 สาเหตุของการปรับเพิ่มคาดว่ามาจาก (1) ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากแนวโน้มการขยายตัวของภาคการส่งออกและปัจจัยฤดูกาลช่วงปลายปี (2) การดำเนินนโยบายภาครัฐ ที่เร่งแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์โดยตรง พร้อมทั้งมีการดำเนินการเรียบร้อยแล้วในกลุ่มเปราะบาง และ (3) ราคาพืชเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการปรับตัวดี

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกในภาพรวมมีแนวโน้มชะลอตัวสะท้อนจาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาประกอบกับภาวะอุทกภัยภายในประเทศที่สร้างความเสียหาย ต่อครัวเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม ยังเป็นปัจจัยกดดันที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พาณิชย์ เผย เงินเฟ้อไทย ส.ค. 67 สูงขึ้น 0.35%