HOOQ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ส่งหนังออริจินัลใหม่100เรื่องบุกตลาดเอเชียในปีหน้า

  • HOOQ พร้อมรุกตลาดวีดิโอออนดีมานด์5ประเทศ
  • เจาะตลาดในภูมิภาคหรือต่างจังหวัดที่ไม่มีโรงภาพยนตร์
  • ระบุการแข่งขันรุนแรงแต่พร้อมให้บริการที่แตกต่างกัน
  • มีออฟชั่นบริการฟรีไปจนถึงคิดบริการรายวันถึงรายปี
  • ปัจจุบันมีสมาชิกลงทะเบียนในแอปพลิชั่น 80 ล้านราย
  • อินโดนีเซียประสบความสำเร็จมากที่สุดสมาชิก 45 ล้านราย
  • ประเทศไทยสมาชิกลงทะเบียน 10 ล้านราย
  • ส่งหนังออริจินัลต่างจากคู่แข่งใหม่100เรื่องภายในไตรมาส2ปีหน้า

(จาการ์ต้า) HOOQ (ฮุค) ผู้ให้บริการวีดิโอออนดีมานด์ ประกาศเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มที่ใน 5 ประเทศคือฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, อินเดียและไทย ประกาศผลิตคอนเทนท์หรือภาพยนตร์ออริจินัลใหม่ในแต่ละประเทศเพื่อต่อยอดความบันเทิง ผลิตใหม่ 19 รายการ ซีรีส์ 12 เรื่อง และภาพยนตร์ 7 เรื่อง เพื่อขับเคลื่อนส่งมอบออริจินัลทั้งหมด 100 เรื่องภายในไตรมาสที่ 2 ปีหน้า

นายปีเตอร์ ไบโธส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HOOQ กล่าวว่า ธุรกิจของ HOOQ ในเอเชียนับว่าเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น แม้ว่าธุรกิจจะเริ่มมีการแข่งขัน แต่ HOOQ เข้าใจในตลาดเอเชีย และได้เน้นการทำคอนเทนท์ที่แตกต่างโดยเฉพาะภาพยนตร์ออริจินัลที่เข้าถึงผู้ชมในทุกประเทศ ปัจจุบันมีสมาชิกรวมแล้ว 80 ล้านราย โดยประเทศอินโดนีเซียมีสมาชิกสูงถึง 45 ล้านราย เป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน และตั้งเป้าจะขยายการให้บริการที่ประเทศเวียดนามและมาเลเซียในอนาคตต่อไป

การลงทุนด้านคอนเทนท์ในครั้งนี้ชี้ให้เห็นภาพชัดเจนมากนึ้ ได้มีการพัฒนา รวมทั้งการผลิตและเพิ่มคอนเทนท์ออริจินัลบนแพลตฟอร์มมากกว่าที่เคยเป็น เมื่อรวมกับ อยู่ระหว่างการผลิตอีก 59 รายการทั่วภูมิภาค รวมถึงภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์, กีฬา อีกมากกว่า 35,000 ชั่วโมง และที่มีอยู่ในขณะนี้


“เราได้ออกแบบ HOOQ เพื่อชุมชนเอเชีย ซึ่งแต่ตลาดล่วนแต่มีเรื่องเล่าเป็นของตนเองในแต่ละพื้นที่ที่เราบริการ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน มีรายการทีวีหรือสื่อบันเทิงมากมายที่ให้ความบันเทิงในพื้นที่นั้นๆ แต่รูปแบบของการให้ความบันเทิงในแต่ละพื้นที่นั้นมีข้อจำกัด ทำให้เราไม่สามารถแชร์เรื่องราวของแต่ละพื้นที่ไปยังพื้นที่อื่นๆได้ ผู้คนที่อยู่เมืองรองในอินโดนีเซียได้ดูหนังครั้งแรกผ่าน HOOQ เพราะในพื้นที่นั้นๆ ไม่มีโรงหนังให้บริการ รวมทั้งในต่างจังหวัดของประเทศไทยซึ่งนั่นคือหัวใจของการให้บริการของเรา วันนี้เราต้องการที่จะพัฒนาหัวใจสำคัญในการให้บริการนี้ไปอีกขึ้นสำหรับผู้คนในเอเชีย”

HOOQ เริ่มก่อตั้งในปี 2558 เริ่มต้นจาก สิงเทล ได้ร่วมทุนกับโซนี่ พิกเจอร์ เทเลวิชั่นและวอร์เนอร์บราเธอร์ ซึ่งทำให้สามารถนำภาพยนตร์จากฮอลีวูดจากบริษัทร่วมทุนดังกล่าวส่งตรงถึงสมาชิกหรือผู้บริโภคได้รวดเร็ว


ด้านนางสาวปิยนุช มีมุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุค ดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย HOOQ เปิดเริ่มเปิดให้บริการเป็นประเทศแรกๆ ตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา โดยการบริการโมเดลธุรกิจได้เน้นไปยัง B2B ด้วยการให้บริการผ่าน “เอไอเอส” โดยฐานสมาชิกที่มีเข้ามาลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นถึง 10 ล้านคน นับเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ 2 รองจากประเทศอินโดนีเซีย และนับจากนี้ไปทาง HOOQ จะเน้นกลยุทธ์ B2C เข้าหาผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้นด้วยการเข้าถึงกลุ่มคนอายุรุ่นใหม่ตั้งแต่ 18-34 ปี

ปิยนุช มีมุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุค ดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด

โดยจุดแข็งทางด้านคอนเทนท์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลีวูด ส่งตรงมาอย่างรวดเร็วทันทีที่เข้าถึงลิขสิทธิ์ของ “แพล็ตฟอร์ม OTT” หรือประมาณ 3 เดือนหลังจากจากโรงภาพยนตร์ การภาพยนตร์ออริจินัลจากผู้สร้างหนังไทยหลายค่าย เป็นพันธมิตรกับค่ายจีดีเอช และเตรียมสัญญากับค่าย M Pictures เพื่อนำภาพยนตร์ในค่ายนี้มาเข้าสู่แพล็ตฟอร์ม หลายเรื่องอาทิเช่น เรื่องรักสองปียินดีคืนเงิน, ขุนบุญลือ และรักไม่เป็นภาษาเป็นต้น รวมถึง TheCave ภาพยนตร์เกี่ยวกับ การช่วยเหลือของทีมฟุตบอลหนุ่มไทยจากถ้ำหลวง Someone ซึ่งเป็นซีรีส์ 8 ตอน

ทาง HOOQ ต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ ด้วยการการนำธุรกิจฟรีทีวีออนดีมานด์ มีให้บริการ 13 ช่อง แล้วแต่ผู้บริโภคจะเลือกดูรายการฟรีทีวีในเวลาใดก็ได้แล้วแต่ความต้องการ ขณะที่บริการบอกรับสมาชิก มีตั้งแต่สมาชิกรายวันแค่ 10 บาทต่อวันดูไม่อั้น ไปจนถึง 7 วันค่าบริการ 45 บาท รายเดือน 119 บาท รายปี 714 บาท

“การที่หลายๆ มุ่งทำคอนเทนท์ออริจินัลกันมากขึ้น ทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันรุนแรง ซึ่งนับว่าดีกับผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ขณะที่ในฐานะผู้ให้บริการจะต้องทำให้ดี เราได้จับมือกับบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ท้องถิ่นในแต่ละประเทศกันมากขึ้น สำหรับในประเทศไทยจะมีการประกาศอีกครั้งในเร็วๆ นี้ว่าจะมีค่ายใดบ้าง

แต่ละคนมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน และมีจุดยืนที่แตกต่างกัน เราจึงแข่งขันกันที่กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน จุดยืนทางธุรกิจที่แตกต่างกัน แพลตฟอร์มของ HOOQ เน้นการให้ทุกคนเข้าถึงได้ จะเห็นได้จากทางเลือกในการจ่ายเงิน ที่ให้จ่ายแบบรายวันไปจนถึงรายปี อีกจุดหนึ่งที่แตกต่างคือ เรามีการนำเสนอเนื้อหาที่มาจากประเทศไทยโดยเฉพาะ”