มาเลเซียและไทยตกลงร่วมมือพัฒนาสินค้าและ มาตรฐานฮาลาล

มาตรฐานฮาลาล
มาเลเซียและไทยตกลงร่วมมือพัฒนาสินค้าและมาตรฐานฮาลาล


นายกฯ ลงพื้นที่ร่วมนายกฯมาเลเซีย มุ่งหวังสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Peace and Prosperity) และส่งเสริมความเชื่อมโยงเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว และพัฒนาสินค้าและ มาตรฐานฮาลาล

นายกฯพบนายกฯมาเลเซีย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สุไหงโก-ลก พบหารือ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

วันนี้ (3 สิงหาคม 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สุไหงโก-ลก พบหารือ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยใน เวลา 11.25 น. นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันที่ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การลงพื้นที่ ร่วมกันครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Peace and Prosperity) และแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพ ความจริงจังและเจตนารมณ์ ทางการเมืองของผู้นำทั้งสองประเทศในการร่วมมือกันเพื่อรักษาความสงบในบริเวณชายแดน

นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณมาเลเซียสำหรับการขับเคลื่อนความร่วมมือ ผ่านการจัดประชุมคณะทำงานด้านการค้าชายแดน และการค้าการลงทุน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดประชุมคณะทำงาน working group ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะหารือกันในกรอบความร่วมมือ JC และ JDS

สองฝ่ายตกลงร่วมมือเกี่ยวกับสินค้าและมาตรฐานฮาลาล

ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันในความร่วมมือเกี่ยวกับสินค้าและมาตรฐานฮาลาลระหว่างทั้งสอง ประเทศเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อความร่วมมือในการขุดลอกแม่น้ำโก-ลก ที่ตื้นเขิน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยฝ่ายมาเลเซียขอความช่วยเหลือ ในการหารือนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่าจะสั่งการกระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาความร่วมมือต่อไป

หวังสะพานคู่ขนานสุไหงโกลกจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสองประเทศ

ในช่วงท้าย ของการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานสุไหงโก-ลก ทั้งนี้ ก่อนการรับประทานอาหารกลางวัน นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นถือเป็นเครื่องสะท้อนว่าทั้งสองประเทศมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น สะพานคู่ขนานสุไหงโกลกจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี เป็นโอกาสที่ได้หารือกันเรื่องเขตการค้าพิเศษระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการหารือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมายังพื้นที่นี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อติดตามพัฒนาการที่เกิดขึ้น

หารือโครงการ Rubber City เชื่อมโยง: สงขลาและรัฐเคดะห์

นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ใน “X” ด้วยว่า “การลงพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซียกับท่านนายกฯ @anwaribrahim วันนี้ เรามาเพื่อย้ำความมุ่งมั่นเรื่องความสงบสุขและการพัฒนา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนสองประเทศครับ ผมได้มาเยี่ยม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส – เมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ได้ดูโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซียร่วมกัน เรายังได้หารือกันเกี่ยวกับการพัฒนาถนน และรถไฟ เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร และโครงการ Rubber City ที่จะเชื่อมโยงระหว่าง สงขลาและรัฐเคดะห์ 2 จุด ซึ่งจะช่วยพัฒนาการผลิตยางร่วมกันให้ส่งออกได้มากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมฮาลาลที่ทางมาเลเซียมี Pasir Mas Halal Park ที่กลันตัน ตรงนี้ยังต้องการวัตถุดิบและสินค้าจากไทย อีกประเด็นคือ การขับเคลื่อนการท่องเที่ยว “Six Countries, One Destination” ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็วครับ”

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ ผลักดันต่อยอดความร่วมมือ ไทย-มาเลเซีย ทุกมิติ