ฝนตกขี้หมูไหล ผีเปรตรวมหัวฟื้นชีพศูนย์การค้ายักษ์หมอชิตเก่า ปล่อยข่าวเวนคืนที่ดินซอยยาสูบตัดถนนเปิดทางสู่เส้นวิภาวดี รังแกชาวบ้าน
สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่าน ปีเก่าไป ปีใหม่มา แต่อะไรต่ออะไรก็ยังเหมือนเดิม
เพราะสิ่งหนึ่งที่ผู้นำรัฐบาลอย่าง นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่มีนโยบายออกมาชัดเจน ก็คือ การจัดการกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในหมู่ข้าราชการ นักการเมือง และพ่อค้า
เรื่องมีอยู่ว่า ก่อน และหลังปีใหม่ไม่กี่วันมานี้ ย่า ได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนจากผู้คนที่อาศัยอยู่ด้านหลังหมอชิตเก่า หรือ หลังอาคารจอดรถไฟฟ้าของ BTS ในซอยยาสูบ ย่านเดียวกันกับสถานที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีว่า พวกเขากินไม่ได้นอนไม่หลับถึงขั้นบางท่านต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะความเครียดจากการถูกคุกคามโดยคน 3 กลุ่มที่เอ่ยมาข้างต้น
ด้วยการปล่อยข่าวไปทั่วว่า กรมธนารักษ์จะเวนคืนที่ดินย่านนี้ก่อนที่พระราชกฤษฏีการเวนคืนที่ดินจะหมดอายุในเดือนส.ค.2567 เพื่อเปิดทางให้บริษัทขนส่ง จำกัด(บขส.) ย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่ไปสร้างไว้ในที่ดินติดสวนจตุจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟม.) กลับมา และสร้างทางออกอีกทางทะลุซอยยาสูบไปโผล่ถนนวิภาวดีรังสิตด้วยขนาดความกว้าง 100 เมตร
จริงๆโมเดลนี้ เป็นของเก่าที่เคยมีปัญหาจากการประมูลเพื่อสร้างสถานีขนส่งสายเหนือ – อีสานบนที่ดินประมาณ 70 ไร่ของกรมธนารักษ์ซึ่งเกิดมีเรื่องไม่ชอบด้วยกฏหมายขึ้นมา
ต้นเรื่องบอกจะสร้างสถานีขนส่งใหม่ให้มีขนาดใหญ่พอจะรองรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกยังภาคเหนือ และอีสานจำนวนมาก แต่เอาเข้าจริง กลับจะสร้างอาคารพาณิชย์ที่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่แฝงอยู่ด้วยโดยมีพื้นที่รวมกว่า 112,000 ตารางเมตร
เมื่อไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซ้ำยังทับซ้อนพื้นที่จอดรถไฟฟ้าของ บีทีเอส ที่สุดบริษัท บางกอกเทอมินัล จำกัด ในฐานะผู้ชนะประมูล จึงก่อสร้างโครงการไม่ได้ ขณะที่ บขส.ย้ายไปสร้างสถานีขนส่งหมอชิต 2 ในพื้นที่ของรฟท.ใกล้สวนจตุจักร ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับสถานีกลางบางซื่อ
แต่ประกาศจะใช้หมอชิต 2 แค่ชั่วคราว ถ่างรูลอดเล็กๆไว้เพื่อจะกลับมายังหมอชิต 1 ในวันที่มีโอกาส
รูเล็กๆนี้จะว่าไปก็ใหญ่โตสมราคาที่ต้องจ่ายใต้โต๊ะไว้ เพราะยังไม่ได้มีการบอกเลิกการประมูล ที่ร้ายกว่านั้น มีการออกพระราชกฤษฏีกาเวนคืนที่ดินในซอยยาสูบไปจนถึงถนนคู่ขนานของวิภาวดีรังสิตด้วย เผื่อได้กลับมาสร้าง บขส.จะได้มีทางออกทั้งด้านพหลโยธิน และวิภาวดีรังสิต
หลับตานึกภาพง่ายๆว่าปลายลิ้นของเจ้าเปรตตัวนี้ ตวัดพ้นอาคารอีสวอร์เตอร์ไปนิดเดียว ส่วนอีกด้านน่ะ มีอันต้องราบพนาสูรไปตามระเบียบพวกไม่มีเส้น
เรื่องนี้แม้จะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2538 – 2544 หรือมากกว่า 23 ปี แต่วันนี้ ยังมีข้าราชการบางหน่วย ร่วมมือกับนักการเมืองบางกลุ่ม ลงขันกันซื้อบริษัท บางกอกเทอร์มินัล เพื่อจะกลับมาสร้างอาคารพาณิชย์ และ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ตามโมเดลเก่าอีกครั้ง ด้วยข้ออ้างว่าจำต้องย้ายหมอชิต 2 กลับมา เพราะรฟท.จะขอพื้นที่คืน
ข่าวการเวนคืนที่ดินนี้ สร้างความทุกข์ใจให้แก่ชาวชุมชนย่านนี้มาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการขึ้นป้ายประท้วง และได้รับคำยืนยันจากอธิบดีกรมธนารักษ์เก่าอย่าง นายยุทธนา หยิมการุณ ว่า จะไม่มีการเวนคืนที่ดินย่านนี้แน่นอน เพราะมีเรื่องไม่ชอบด้วยกฏหมาย
แต่กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังทำหน้าที่เหมือน IO หรือไม่ก็ Call Center ปล่อยข่าวนี้ข่มขู่ชาวบ้านต่อเนื่อง กระทั่ง คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ยืนยันว่า สถานีขนส่งหมอชิต 2 จะไม่ย้ายไปไหนอีก แต่จะปรับปรุงให้เป็น HUB ของสถานีขนส่งทั่วทุกภาคมาอยู่รวมกันเช่นเดียวกับระบบการขนส่งในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเอื้อประโยชน์แก่ประชาชน และ นักท่องเที่ยวได้มากที่สุด
ย่าจะไม่ขอลงรายละเอียดเพราะคุณสุริยะ แถลงต่อสภาไปเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมาแล้ว
ถึงจะไม่มีข้ออ้างบังหน้าเรื่องการย้ายหมอชิต 2 กลับมาแล้ว แต่โครงการสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่นี้ซึ่งมีข้าราชการบางหน่วย พ่อค้า และนักการเมืองกลุ่มหนึ่งลงขันกันคนละ 100 ล้านบาทต้องการจะสร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมให้ได้
ยังคงมีอยู่ และแน่นอนว่า ความคิดจะเวนคืนที่ดินซอยยาสูบให้เป็นทางออกสู่ถนนวิภาวดีรังสิตของศูนย์การค้าแห่งนี้ ก็ยังคงจะมีอยู่แน่นอน แม้ว่า มันจะผิด กฏกติกามาตั้งกะติดกระดุมเม็ดแรกก็เหอะ
ย่าน่ะ พอจะเข้าใจพื้นฐานความคิดของข้าราชการ และพ่อค้าได้ไม่ยาก แต่ไม่เข้าใจว่า นักการเมืองกลุ่มนี้ คิดจะทำเรื่อง หจฮ.แบบนี้ได้ไง?! เพราะมันคือการรังแกชาวบ้าน
นี่มันยิ่งกว่า รหัสลับของเด็กๆที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ผนงรจตกม ซะอีก!!
