ฟอกขาว จำนำข้าว ข้าว10ปี กินได้ เย้ยรัฐบาล “คสช.”

จำนำข้าว ข้าว10ปี
“นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โรงสี ผู้ส่งออก สื่อมวลชน จำนวนมาก ลงพื้นที่ไป “ท้าพิสูจน์” พร้อม “กินโชว์” ออกสื่อ

คิดว่า “จบ” แต่ “ไม่จบ” โครงการ จำนำข้าว กลับยิ่งเป็นการสร้างกระแสให้เรื่องราวลุกลามบานปลายใหญ่โต!! หลังจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์นำผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์โรงสีผู้ส่งออกสื่อมวลชนจำนวนมากลงพื้นที่ไป “ท้าพิสูจน์” พร้อม “กิน ข้าว10ปี โชว์” ออกสื่อ

ข้าว10ปี กินได้จริงหรือไม่? จำนำข้าว ขาดทุนเท่าไหร่?

ข้าวสารหอมมะลิล็อตสุดท้าย จากโครจงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ที่ฝากเก็บในโกดังเอกชน 2 แห่งที่จ.สุรินทร์ คือ กิตติชัย และ พูนผลเทรดดิ้ง รวม 145,590 กระสอบ หรือ 15,012 ตัน ซึ่งเก็บมานานนับ 10 ปี ตั้งแต่โครงการจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 56/57

“นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โรงสี ผู้ส่งออก สื่อมวลชน จำนวนมาก ลงพื้นที่
“นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โรงสี ผู้ส่งออก สื่อมวลชน จำนวนมาก ลงพื้นที่

ด้วยความตั้งใจจะทำให้สังคมได้เห็นว่า ข้าวสารที่เก็บอยู่ในทั้ง 2 โกดังดังกล่าว ยังเป็นข้าวดีที่พร้อมนำไปขายเพื่อการบริโภค ไม่ใช่ข้าวเน่าที่จะเป็นอาหารสัตว์ หรือเข้าสู่อุตสาหกรรม เช่น ปุ๋ย แอลกอฮอล์ อย่างที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดเกรดไว้

เพื่อสร้างความมั่นใจในการนำข้าวดังกล่าว มาเปิดประมูลขายเป็นการทั่วไปเพื่อการบริโภค ภายในเดือนพ.ค.67 ทั้งๆ ที่สามารถเปิดประมูลได้ตามขั้นตอนปกติเหมือนที่ผ่านมา โดยไม่ต้อง เรียกแขก

ซึ่งหลังจาก บริษัท โคเทคนา อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ตรวจสอบกลางตามมาตรฐานสากล ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ตรวจสอบทุกขั้นตอนตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่เปิดประตูโกดังข้าว ผ่ากอง เก็บตัวอย่างจากกระสอบที่อยู่ภายในกอง จนถึงการหุง

เมล็ด ข้าว จากโครงการจำนำข้าวที่เก็บนาน 10 ปี
เมล็ด ข้าว จากโครงการจำนำข้าวที่เก็บนาน 10 ปี

พบว่า ลักษณะทางกายภาพ เมล็ดข้าวยังสมบูรณ์ ไม่มีเสียหายจากการถูกทำลายด้วยแมลง แต่มีฝุ่น และมีสีเหลืองงาตามระยะเวลาเก็บรักษา ส่วนข้าวที่หุงแล้ว ไม่แข็งกระด้าง มีความนุ่มเหมือนข้าวเก่าทั่วไป  

ถือเป็นตอกย้ำว่า ข้าวยังดีอยู่ และคาดว่า ในการประมูล จะขายได้กิโลกรัม (กก.ละ) ไม่ต่ำกว่า 18 บาท รวมๆ แล้วจะได้เงินส่งคืนคลังไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท

และจะสามารถปิดบัญชีโครงการรับ จำนำข้าว ได้ ซึ่งจะทำให้รู้กันเสียทีว่า โครงการ รับจำนำข้าว มีผลขาดทุนเท่าไร สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย และคนไทยมากมายเพียงใด!!

แต่การท้าพิสูจน์ และกินโชว์ครั้งนี้ กลับเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่า ข้าว10ปี กินได้จริงหรือไม่? ปลอดภัยหรือไม่? มีสารเคมี เชื้อรา หรือเชื้ออื่นๆ ตกค้าง ปนเปื้อนหรือไม่? ฯลฯ

และล่าสุด มีข่าว “เอกสารลับ” ที่เกี่ยวกับการขายข้าว และการทิ้งสัญญาซื้อขายใน 2 โกดัง ของ “องค์การคลังสินค้า(อคส.) หน่วยงานที่ดูแลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล หลุด จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าข้าวเก็บ 10 ปีดีจริง เหตุใดผู้ชนะการประมูลในช่วงก่อนหน้า จึงยอมผิดสัญญา ทิ้งข้าวที่ตนซื้อไว้

ประเด็นเหล่านี้นายกฤษณรักษ์ ใจดีรักษาการแทน ผู้อำนวยการ อคส. บอกว่า อคส.มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพข้าวในช่วงก่อนฝากเก็บข้าวในโกดัง และตลอดระยะเวลาการฝากเก็บ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบความปลอดภัยของข้าว

“น่าจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่ชนะการประมูลที่จะต้องตรวจสอบความปลอดภัย แต่ก่อนการนำข้าวไปขายสู่ผู้บริโภค ผู้ชนะประมูลต้องปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนอยู่แล้ว เช่น การอบข้าว ขัดสี เป็นต้น”

จำนำข้าว

โกดังเก็บ ข้าว ในโครงการรับจำนำข้าว
โกดังเก็บ ข้าว ในโครงการรับจำนำข้าว

สำหรับข้าวของทั้ง 2 โกดัง อคส. เปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง แต่การประมูลล่าสุด เมื่อปี 63 ผู้ชนะประมูลไม่มารับมอบข้าว เพราะซื้อราคาแพงกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 20 บาท แต่หลังจากนั้น ราคาตลาดลดลงมาก จากสถานการณ์โควิด ที่ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ผู้ซื้อจึงยอมผิดสัญญา ทิ้งข้าว เป็นเหตุให้อคส.ฟ้องร้องดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม หลังการประมูลครั้งสุดท้ายปี 63 อคส.ได้เปิดประมูลอีก 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ โดยรอบแรกมีการร้องเรียนรายละเอียดของ ทีโออาร์ จึงต้องยกเลิก รอบสอง ไม่มีคนเข้าร่วม อ้างว่า อคส.เปิดประมูลในเวลากระชั้นเกินไป เตรียมตัวไม่ทัน ก็ยกเลิกอีก และรอบสาม จะเปิดประมูลราวๆ เดือนก.พ.67 แต่รัฐบาลใหม่มาพอดี รมว.พาณิชย์ จึงสั่งให้ยกเลิกก่อน เพราะยังไม่รู้ว่า ข้าวเป็นอย่างไร นำมาซึ่งการท้าพิสูจน์ข้าวก่อนเปิดประมูล

ประมูลได้แล้วก่อนนำไปขายต้องปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อน

ขณะที่นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยมอธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า ตามปกติข้าวสารที่เก็บในคลัง ก่อนนำไปบริโภค หรือส่งออก ผู้ที่ซื้อข้าวไป จะต้องปรับปรุงคุณภาพ เพื่อให้ได้มาตรฐานด้านการค้า และสุขอนามัยตามที่กำหนด มิใช่นำข้าวจากคลังที่เก็บไว้ไปจำหน่ายทันที ไม่มีบริษัทใดยอมเสียชื่อเสียงขายข้าวไม่ดี

ดังนั้น ต้องจับตาดูว่า ผู้ที่ชนะประมูล ก่อนจะขายข้าวสู่ผู้บริโภค จะปรับปรุงคุณภาพให้ปลอดภัยสำหรับการบริโภคหรือไม่ อย่างไร และจะขายให้ใคร ส่งออก หรือทำเป็นข้าวถุงขายในประเทศ

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาอีกว่า การการันตีข้าว10ปี กินได้ จะเป็นการฟอกขาวให้ข้าวเกรด C (ข้าวเสื่อม) ในสต๊อกรัฐ ที่รัฐบาลคสช.จัดเกรดไว้หรือไม่

ถ้าสามารถฟอกขาวให้ข้าวเสื่อม เป็นข้าวดีได้ ถือเป็นการเย้ยรัฐบาลคสช. เพราะขณะนั้น มีการออกม.44 ปิดคลังเก็บข้าวรัฐทั่วประเทศ และแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ 100 สายปูพรมตรวจสอบข้าวรัฐทั่วประเทศ และนำมาจัดเกรดข้าวเป็น A B C ที่เป็นข้าวดีจนถึงข้าวเสื่อม

ทั้งๆ ที่โรงสี โกดัง ทักท้วงหนักว่า ข้าวดี กลับจัดเกรดเป็นข้าวเสื่อม และรัฐบาลคสช.นำไปขายเป็นข้าวเสื่อม ราคาถูก สร้างความเสียหายให้รัฐมหาศาล และอาจมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันได้อีก

และที่สำคัญจะมีผลทางคดี อาจทำให้ อคส. “แพ้” คดีนับพันคดี ที่ฟ้องร้องเจ้าของโกดัง และคลังสินค้าเก็บข้าวรัฐ ฐานทำผิดสัญญาฝากเก็บ เพราะทำให้ข้าวเสื่อมสภาพไปจากเดิม

และหากอคส.แพ้ทุกคดีจริง จะต้องจ่ายชดใช้ค่าเสียหายมูลค่ามหาศาล ให้กับโกดัง แต่ล่าสุด อคส.มีเงินเหลือประมาณ 600 ล้านบาทเท่านั้น

เรื่องนี้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย คงไม่พ้นคนไทยผู้เสียภาษีตามเคย!!

กระทรวงพาณิชย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประมูล ปิดตำนาน ข้าว10ปี จำนำข้าว