

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบทบทวนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยปรับอัตราการคืนเงิน จากเดิม 15-20% เป็น 15 -30% โดยสิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่15% เมื่อมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกิน 15%
สำหรับการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท จะได้รับสิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ 20% และสิทธิโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกิน 10% ซึ่งจะเริ่มประกาศใช้ในวัน 1 ม.ค. 68
ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาจ่ายคืนให้กับกองถ่ายหนังต่างชาติเป็นงบประมาณปกติของกรมการท่องเที่ยว หากงบประมาณไม่เพียงพอกระทรวงการท่องเที่ยวจะขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง
ยกเว้นเพดานการขอคืนเงินต่อเรื่อง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ยกเว้นเพดานการขอคืนเงินต่อเรื่องเพื่อเป็นการรองรับกับแนวโน้มที่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่เข้ามาในไทยเป็นผู้สร้างรายใหญ่ เงินทุนสูง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศ ทั้งนี้เดิมมีการกำหนดเพดานที่ 150 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการนำมาใช้
“การทบทวนมาตรการนี้จะส่งผลต่อการฟื้นฟูกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย กระจายรายได้สู่เมืองรอง การเพิ่มการจ้างงานคนไทย การเพิ่มมูลค่า ค่าใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประชาชนโดยตรง ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ของไทยไปยังต่างประเทศ” นายสรวงศ์กล่าว
ทั้งนี้ตั้งแต่ 2560 – 2567 หรือในช่วง 7 ปี ที่ผ่านมามีภาพยนตร์ที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย จำนวน 72 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศ 16,102 ล้านบาท พิจารณาคืนเงินแล้ว 52 เรื่อง
จากปี 60-65 สร้างรายได้ 9,669 ล้านบาท วงเงินคืนรวม 1,534 ล้านบาท
ส่วนปี 66-67 อยู่ระหว่างถ่ายทำ และรวบรวมตรวจสอบเอกสารการเงินแล้วจำนวน 20 เรื่อง สร้างรายได้ 6,433 ล้านบาท วงเงินคืนประมาณ 1,310 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คาดกองถ่ายภาพยนต์ต่างประเทศจะเข้ามาถ่ายทำในไทยปีหน้า ใช้เงินแตะหมื่นล้านบาท