Forbes จัด10อันดับ มหาเศรษฐีโลกรวยเพิ่มขึ้นปี66 รวม17.5ล้านล้านบาท

Forbes จัด 10 อันดับ มหาเศรษฐีโลกรวยเพิ่มขึ้น รวม 17.5 ล้านล้านบาท Elon Musk ขึ้นเบอร์ 1 รวยเพิ่ม 3.794 ล้านล้านบาท

  • อันดับที่ 2 Mark Zuckerberg แห่ง Facebook รวยเพิ่ม 2.618 ล้านล้านบาท
  • อันดับที่ 3 Jeff Bezos แห่ง Amazon   รวยเพิ่ม 2.275 ล้านล้านบาท
  • อันดับที่ 4 Prajogo Pangestu มหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย รวยเพิ่ม 1.6765 ล้านล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Forbes ได้จัดอันดับ 10 มหาเศรษฐีของโลกที่รวยเพิ่มขึ้นจากต้นปีมากที่สุดของปี2566 โดยมีมูลค่าความมั่งคั่งรวมกันแล้วเป็นเงิน  500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 17.5ล้านล้านบาท

  • อันดับที่1  Elon Musk

ธุรกิจยานยนต์ : Tesla, SpaceX รวยเพิ่ม 108,400 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3.794 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 254,900 ล้านเหรียญ

หุ้นของ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Elon Musk ซึ่งเริ่มส่งมอบรถยนต์ Cybertrucks เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% และธุรกิจจรวด SpaceX ก็ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวมากกว่า 90 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าของ SpaceX พุ่งสูงขึ้นเป็นมูลค่า 150,000 ล้านเหรียญในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

  • อันดับที่ 2 Mark Zuckerberg

ธุรกิจเทคโนโลยี : Facebook  รวยเพิ่ม 74,800 ล้านเหรียญ  หรือประมาณ 2.618 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 118,600 ล้านเหรียญ

หลังจากผ่านพ้นวิกฤตในปี 2565 ไปได้อย่างยากลำบากด้วยราคาหุ้นตกต่ำ ผลกำไรร่วงหล่น และการเลิกจ้างอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทว่าในไตรมาส 4 ของปี 2566 นี้ Mark Zuckerberg สามารถกลับมายืนหยัดอย่างสง่างามอีกครั้ง โดยเพิ่มความมั่งคั่งราว 75,000 ล้านเหรียญ ขณะเดียวกันหุ้นของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 178% ในปีนี้

  • อันดับที่ 3 Jeff Bezos

ธุรกิจเทคโนโลยี : Amazon   รวยเพิ่ม 65,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.275 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 172,300 ล้านเหรียญฯ

หุ้นของ Amazon เพิ่มขึ้น 79% ในปี 2023 ทำให้ Bezos ได้ครอบครองเป็นเจ้าของเรือยอทช์ลำใหม่ด้วย

  • อันดับที่ 4 Prajogo Pangestu

ธุรกิจค้าไม้และปิโตรเคมี รวยเพิ่ม  47,900 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.6765 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 52,800 ล้านเหรียญ

มหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซียรายนี้ร่ำรวยจากธุรกิจไม้และปิโตรเคมี เขาเข้าจดทะเบียนธุรกิจเหมืองถ่านหินในเดือนมีนาคม และในเดือนตุลาคม เขาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย หลังจากนั้นหุ้นของเขาก็ดีดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 200%

  • อันดับที่ 5 Larry Page

ธุรกิจเทคโนโลยี : Google รวยเพิ่ม 34,400 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.204 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 111,700 ล้านเหรียญ

หุ้นในบริษัทแม่ของ Google Alphabet เพิ่มขึ้น 50% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอคอยซอฟต์แวร์ Gemini AI ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในปี 2567

  • อันดับที่ 6 Amancio Ortega

ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น : Zara  รวยเพิ่ม 33,200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.162 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 97,400 ล้านเหรียญ

Amancio Ortega มหาเศรษฐีชาวสเปน ซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นแบรนด์ดังอย่าง Zara รายนี้ ได้จดทะเบียนธุรกิจในเมืองมาดริด โดยหุ้น Inditex ของบริษัทเขาเพิ่มขึ้น 57% ในปี 2566 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

  • ​อันดับที่ 7 Sergey Brin

ธุรกิจเทคโนโลยี : Google   รวยเพิ่ม 33,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ  1.155 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 107,300 ล้านเหรียญ

Sergey Brin ซึ่งเคยร่วมกับ Larry Page โบกมือลาออกจาก Google ไปในปี 2562 แต่แล้วเขาก็หวนกลับมายังบริษัทเดิมในตำแหน่งที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากที่สุดในปี 2566 โดยทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถด้านต่างๆ ของระบบ AI

  • อันดับที่ 8 Steve Ballmer

ธุรกิจเทคโนโลยี : Microsoft   รวยเพิ่ม 32,400  ล้านเหรียญ หรือประมาณ  1.134 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 110,900 ล้านเหรียญ

Steve Ballmer ในฐานะอดีต CEO ของ Microsoft นับตั้งแต่ปี 2543 ถึง 2557  และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ โดยหุ้นของเขาปรับเพิ่มขึ้นถึง 55%

  • อันดับที่ 9 Larry Ellison

ธุรกิจเทคโนโลยี : Oracle  รวยเพิ่ม 30,800  ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.078 ล้านล้านบาท รายได้สุทธิ : 133,200 ล้านเหรียญ

ความต้องการบริการศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดย AI ช่วยเพิ่มหุ้นของ Oracle ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ที่ Ellison ก่อตั้งในปี 2520 เพิ่มขึ้นได้ 26% ในปีนี้

  • อันดับที่ 10 Jensen Huang

ธุรกิจเทคโนโลยี : Nvidia   รวยเพิ่ม 29,800 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.043 ล้านล้านบาท ทรัพย์สินสุทธิ : 43,600 ล้านเหรียญ

Huang ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia ซึ่งออกแบบชิปที่ใช้สำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์ จึงทำให้หุ้นของเขาพุ่งขึ้นกระฉูดถึง 230% ในปี 2566 ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Nvidia มีมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และทำให้ Huang ที่เกิดในไต้หวันกลายเป็น 1 ใน 20 ชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Forbes ประเทศไทย