EXIM BANK พักหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 6 เดือน ลดภาระผู้ส่งออกสู้ภัยไวรัสโคโรนา

  • คาดสินค้าผลไม้-ยาง-ข้าว ส่งไปจีนได้รับผลกระทบ
  • ขยายความคุ้มครองผู้ส่งออกที่มีการส่งออกไปจีน
  • ลดระยะเวลาพิจารณาค่าสินไหมทดแทนให้เร็วขึ้น

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้รัฐบาลจีนจำกัดการเดินทางและระบบขนส่งมวลชนในหลายเมืองของจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกของไทย  

ทั้งนี้สินค้าไทยที่ส่งออกไปจีนและได้รับผลกระทบ ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว ชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เม็ดพลาสติก และยางพารา ดังนั้นธนาคารจึงออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ทั้งด้านสินเชื่อและด้านรับประกันการส่งออก เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอาจเกิดขึ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า

สำหรับมาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อทั้งระยะยาวและระยะสั้น จะให้ผู้ประกอบการสามารถขอพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้สูงสุด 6 เดือน รวมทั้งขยายระยะเวลาให้ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินเกินเทอมที่ธนาคารอนุมัติ รวมกับอายุตั๋วเดิมแล้วไม่เกิน 360 วัน กรณีลูกค้าที่มีการค้ำประกันสินเชื่อโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) PGS ระยะที่ 5-7 สามารถขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ออกไปได้อีกสูงสุด 5 ปี โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ในส่วนที่ขยายออกไป 5 ปี นับจากวันที่หมดระยะเวลาการค้ำประกันที่มีกับโครงการเดิม ทั้งนี้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับบริการภายใต้มาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธ.ค. 2563

ส่วนมาตรการสนับสนุนด้านรับประกันการส่งออก สำหรับลูกค้าประกันการส่งออกของ EXIM BANK ที่มีการส่งออกไปแล้ว หรือได้รับคำสั่งซื้อแล้วและกำลังเตรียมการส่งออก ประกอบด้วย 1. การขยายระยะเวลาการชำระเงินที่ EXIM BANK ให้ความคุ้มครองสูงสุดรวมกันไม่เกิน 270 วัน (กรณีไม่เกิน 180 วัน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) 2. การเพิ่มความคุ้มครองให้กับสินค้าที่เน่าเสียง่ายจากการที่ผู้ซื้อในจีนไม่รับมอบสินค้าเป็นกรณีพิเศษ ในอัตรา 50% ของมูลค่าใบกำกับสินค้า

3. การลดระยะเวลาการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน โดย EXIM BANK จะชดเชยให้ทันที โดยไม่ต้องขายหรือทำลายสินค้าก่อน ลูกค้าและผู้ส่งออกที่สนใจขอรับบริการภายใต้มาตรการสนับสนุนด้านรับประกันการส่งออกได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ก.ค. 2563