

เปิดเบื้องลึกเมกะโปรเจกต์ “รอยัล สยาม เฮเว่น :RSC” ราชตฤณมัยสมาคมฯ ผุด “เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” 2 แสนล้าน ถอดคำต่อคำ 2 บิ๊กนางเลิ้ง “พลเอกจำลอง บุญกระพือ” ประธานสมาคม “ดร.อริย์ธัช รัตนศุทธพบูลย์” ประธานโครงการRSC เปิดบทวิเคราะห์แม่เหล็กดึงทุนต่างชาติ เห็นไทยเก็บภาษีพนันต่ำโอกาสทำ EBIDA สูง40%
ทันทีที่ “พลเอกจำลอง บุญกระพือ” ประธานกรรมการอำนวยการ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ “สนามม้านางเลิ้ง” เปิดเผยว่าที่ประชุมสมาชิกสามัญประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 พร้อมจะเปิดตัวโครงการ “เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” มูลค่าการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาด 1,350 ไร่ โดยมีชื่อ บริษัท Royal Sport Complex จำกัด “RSC” เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมกับราชตฤณมัยสมาคมฯ พัฒนาเป็นเวิลด์คลาสครบวงจร มีทั้งสนามม้าแห่งใหม่รองรับการแข่งขันระดับสากล โรงแรมระดับ 6 ดาว สนามกอล์ฟ ยอร์ชคลับ ภัตตาคารหรู โรงละคร โรงพยาบาล การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ศูนย์การเรียนรู้ กิจกรรมกีฬาและบันเทิงต่าง ๆ
โดยมี ดร.อริย์ธัช รัตนศุทธพบูลย์ รองประธานกรรมการอำนวยการ และนายสนามราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานโครงการ “The Royal Siam Haven” ระบุจะพัฒนาม้าแข่งและสนามม้าแห่งใหม่ตามรูปแบบเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ครบวงจร ในเร็ว ๆ นี้ จะเปิดข้อมูลความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ทำให้ “กระแสความสนใจ” การลงทุนเมกะโปรเจกต์ “เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” ของราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกสปอร์ตไลท์จากสังคมเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2567 จนถึงขณะนี้เช่นกัน
ถอดคำพูด “คำต่อคำ” ถึงเส้นทางการลงทุนพัฒนาเมกะโปรเจกต์ “รอยัล สยาม เฮเว่น : Royal Siam Haven” ของพลเอกจำลอง บุญกระพือ” และ “.ดร.อริย์ธัช รัตนศุทธพบูลย์” นำเสนอไว้ดังนี้คือ
“ในราชตฤณมัยสมาคมฯ ของเราแถลงข่าวเปิดตัววันนี้ (24 สิงหาคม 2567) ถือเป็นความโชคดีของสมาคมเป็นอย่างยิ่ง ที่มีผู้ร่วมทุนที่จะมาพัฒนากิจการแข่งม้าของเราให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับสากลประเทศที่เค้าทำกันอยู่แล้ว เนื่องจากสมาคมหยุดการแข่งขัน(ม้า) มาตั้งแต่ปี 2561 ไม่มีสถานที่และไม่มีผู้ร่วมทุน คราวนี้จึงถือว่าโชคดีของสมาคมและชื่อของสมาคมจะอยู่ชั่วนานกาล สมาคมมีความโชคดีซึ่งอันนี้ ผมคิดว่าเป็นเพราะพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของราชตฤณมัยสมาคม ท่านบันดาลให้เราโชคดี และได้รับความร่วมมือจากท่าน ดร.อริย์ธัช รัตนศุทธพบูลย์ มาร่วมกับสนามม้าของเราทำเอนเตอร์เมนท์ คอมเพล็กซ์”
ระหว่างพลเอกจำลอง แนะนำตัว “ดร.อริย์ธัช รัตนศุทธพบูลย์” พูดเสริมขึ้นว่า ต้องขอขอบคุณท่านประธาน (พลเอกจำลอง) ที่ให้โอกาสบริษัทเราเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการ สนามม้าแข่ง และเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ตามขั้นตอนการดำเนินการ จะใช้พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร เริ่มจาก “การสร้างสนามแข่งม้า” พัฒนาสายพันธุ์ม้า ทำการแข่งขัน เพื่อให้ทันสมัย ทันต่อโลก ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประเทศที่มีม้าแข่ง ว่าประเทศไทยมีม้าสายพันธุ์ม้าแข่งสามารถเป็น 1 ในโลกได้
ส่วนการทำเป็น “เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” จะมีรายละเอียดเรื่องของการดูแลสุขภาพ โรงแรมระดับ 6 ดาว เป็นสถานที่พักผ่อน สนามกอล์ฟ สนามม้า และหลาย ๆ อย่าง อยู่ในคอมเพล็กซ์ ทำให้ “ต่างชาติ” เข้ามาพักในเมืองไทย อาจจะทำเป็นฮับในเอเชียเลยก็ได้ (ครับ)
สำหรับ “นักลงทุนต่างประเทศ” สำคัญสุดก็คือ “ความมั่นใจ” ในตัวเรา จึงเกิดการเปิดตัวในวันนี้ และเปิดรับนักลงทุนที่สนใจที่จะมาลงทุนร่วมกับเราติดต่อได้ (ตามที่อยู่ระบุไว้)
สอดคล้องกับเมื่อ 2-18 สิงหาคม 2567 ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ“ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์” โดยมีสาระสำคัญกำหนดไว้คือ เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ประกอบด้วย ธุรกิจสถานบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน ต้องตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่กำหนด และดำเนินการโดยบริษัทจดทะเบียนในไทย มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

สำหรับ “ธุรกิจบันเทิง” ระบุให้มีองค์ประกอบทางธุรกิจหลายประเภทรวมกัน เช่น โรงแรม ศูนย์การประชุม ศูนย์การจัดแสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ธนาคาร สวนสนุก สนามกีฬา ร่วมกับกาสิโน ระบุเหตุผลจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ CLSA บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในฮ่องกง ได้ทำวิเคราะห์ข้อมูลความหนากว่า 100 หน้า พร้อมระบุสถานการณ์ตลาดกาสิโนเมืองไทยประเมินในปี 2566 มีขนาดตลาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย กรณีเปิดให้ต่างชาติเข้ามาใช้บริการจะมีมูลค่าตามข้อมูลฐานปกติปีละประมาณ 15,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (530,000 ล้านบาท)
ขณะนี้มีกลุ่มทุนในแวดวงกาสิโนต่างชาติสนใจพร้อมจะขอใบอนุญาตประกอบการเมื่อร่างกฎหมายผ่านเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยเบอร์ใหญ่ 6 แบรนด์ คือ 1.กาแลกซี่ เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป 2.เอ็มจีเอ็ม ไชน่า 3.แซนด์ส ไชน่า 4.วินน์ มาเก๊า 5.เก็นติ้ง มาเลเซีย 6.รีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า สิงคโปร์
ผลวิเคราะห์ของ CLSA ได้เปรียบเทียบ “โครงสร้างมูลค่าตลาด” จากฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาแต่ละปี ระหว่าง “ไทย” กับ “สิงคโปร์” ใกล้เคียงกันกันมาก 35-39 ล้านคน/ปี และใช้จ่ายเงินเฉลี่ยปีละ 386 ดอลลาร์สหรัฐ/คน
แต่ไทยมีจะดึงดูดกลุ่มทุนได้มากกว่าเพราะ จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแข็งแกร่ง บรรยากาศเอื้อต่อธุรกิจ และจัดเก็บอัตราภาษีการพนันค่อนข้างต่ำเพียง 17% แถมไม่มีเพดานด้วย จึงมองเห็นโอกาสทำกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายและภาษีต่าง ๆ (EBITDA) จะทำได้ถึง 40%

ผลตอบแทนดังกล่าวคำนวณฐานข้อมูลตัวเลขเปรียบเทียบจาก มารีน่า เบย์ แซนด์ กับรีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า สิงคโปร์ สามารถทำกำไรจากผู้เล่น (GGR) ประมาณปีละ 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำ EBITDA ได้แห่งละ 805 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : MGM มาเก๊า ลั่น ลงทุนคอมเพล็กซ์เอนเตอร์เทนเมนท์ในไทย