ความหวัง “ส่งออก” ดันเศรษฐกิจ-พาณิชย์เร่งเครื่องเต็มพิกัด

ส่งออกไทย กระทรวงพาณิชย์ เศรษฐกิจ
ณ เวลานี้ ส่งออกไทย คือความหวัง ดันเศรษฐกิจ-กระทรวงพาณิชย์ เร่งเครื่องเต็มพิกัด


หลายคนอาจสงสัย “การ ส่งออก” สินค้าไทยที่เคยเป็น “พระเอก” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือเป็นเครื่องจักรหลัก สร้างรายได้เข้าประเทศ ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้นั้น

ณ วันนี้ ผ่านไปแล้ว 5 เดือน (ตัวเลขล่าสุดมีถึงเดือนพ.ค.67) การส่งออกจะยังคงเป็นพระเอก หรือพระรอง หรือยังคงฝาก ความหวัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ให้ขยายตัวตามเป้าหมายได้หรือไม่

เนื่องจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มทยอยปรับลดคาดการณ์การส่งออกไทยในปีนี้แล้ว จากเดิมคาดเติบโตอยู่ในช่วง 1-3% ก็ลดลงเหลือ 0.5-2.5%

จากปัจจัยเสี่ยงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งการสู้รบของรัสเซีย-ยูเครน และอิสราเอล-อิหร่าน ที่รุนแรงขึ้น จนกระทบต่อราคาพลังงาน ส่งผลต่อเนื่องถึงต้นทุนการผลิตสินค้า ค่าระวางเรือสูง อีกทั้งยังมีสงครามการค้าระลอกใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่กระทบต่อการค้าโลก รวมถึงค่าเงินบาทผันผวน ฯลฯ

และที่สำคัญ กระทรวงพาณิชย์ จะมีแผนส่งเสริม ผลักดันการส่งออกช่วงครึ่งหลังปี67อย่างไร เพื่อให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่1-2%เทียบกับปี66ที่มีมูลค่า284,561.8ล้านเหรียญสหรัฐฯติดลบ1%จากปี65

พาณิชย์ เร่งเครื่องส่งออกครึ่งหลังปี 67

ส่งออก เศรษฐกิจ
ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ในเรื่องนี้นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ บอกว่า เตรียมอัดกว่า 50 กิจกรรม เร่งผลักดันมูลค่าส่งออกครึ่งหลังปี 67 ให้ได้ 50,834 ล้านบาท 

จากล่าสุดช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พค.) ทำได้แล้ว 4.298 ล้านล้านบาท เพิ่ม 8.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 120,954.1 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 2.6% 

สำหรับกิจกรรมที่จะใช้ดำเนินการ ได้แก่ 1.เดินสายเปิดประตูโอกาสทางการค้าเชิงรุก โดยมีตลาดเป้าหมาย เช่น แอฟริกาใต้ คาซัคสถาน รวมถึงกานา แทนซาเนีย โมแซมบิก ญี่ปุ่น (โอซากา) อินโดนีเซีย เป็นต้น

2.ขยายการค้าไปเมืองรองศักยภาพของประเทศต่างๆ เช่น มีแผนจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) 7 ฉบับ กับเมืองรองของจีน เช่น เซียเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน, มณฑลเฮยหลงเจียง, มณฑลซานซี เป็นต้น

3.สร้างกระแสและใช้ประโยชน์จากซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดันสินค้าและบริการไทย เช่น ร้านอาหาร วัฒนธรรม ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น การท่องเที่ยว

รวมถึงผลักดันส่งออก 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมกับจัดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ THACCA SPLASH : Soft Power Forum วันที่ 28 – 30 มิ.ย.นี้

4.ใช้ Marketing Platform รูปแบบใหม่โปรโมตสินค้าไทย เช่น ร่วมมือกับผู้ผลิตภาพยนตร์ และซีรีส์วายยูริ สอดแทรกสินค้าและบริการไทยในฉาก เพื่อสร้างการรับรู้ จดจำสินค้าไทย ทำให้ผู้ชมอยากซื้อ อยากใช้สินค้าไทย หรืออยากตามรอยซีรี่ส์มาท่องเที่ยวประเทศไทย

5. การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละประเทศ สร้างความต้องการสินค้าไทย ด้วยการรีวิวสินค้าให้กับผู้ติดตาม รวมถึงจะจัดมหกรรม International Live Commerce ในช่วงปลายเดือนก..-..67

6.ใช้ร้านอาหาร Thai SELECT ในต่างประเทศ เป็นโชว์รูมสินค้าไทย เพื่อให้ผู้มารับประทานอาหาร สามารถซื้อสินค้าไทยได้ เช่น เครื่องแกงสำเร็จรูป ผ้าไหมไทย เพลงป๊อปสไตล์ไทย (T-POP) ซีรีส์ ภาพยนตร์ ฯลฯ

7. จัดทำความร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างชาติเพิ่มเติม และตั้งร้าน TOPTHAI เพื่อเป็นช่องทางขายสินค้าไทย ปัจจุบัน เปิดร้าน TOPTHAI แล้ว บน 9 แพลตฟอร์ม ของ 10 ประเทศ เช่น Amazon สหรัฐฯ Tmall จีน/ Bigbasket อินเดีย/ Klangthai.com กัมพูชา/ Blibli.com อินโดนีเซีย เป็นต้น

หากผลักดันได้ตามเป้าหมาย จะทำให้ทั้งปี 67 การส่งออกจะขยายตัวตามเป้าหมายที่ 1-2% ใกล้เคียงกับประมาณการล่าสุดของกระทรวงการคลัง ที่ 2.3% ธนาคารแห่งประเทศไทย 2.0% และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) 0.5-1.5%”

ดัน ส่งออก สินค้า ดาวเด่นระดับรอง

ขณะเดียวกัน ฟากฝั่งของ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) หน่วยงานคลังสมอง (Think Tank) ของกระทรวงพาณิชย์ มองว่า ปัญหาหนึ่ง ที่ทำให้การส่งออกไทย ไม่ขยายตัวได้เต็มศักยภาพ

เนื่องมาจาก สินค้าส่งออกหลักกระจุกตัวอยุ่ในสินค้าไม่กี่กลุ่มมานานแล้ว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบอัญมณีและเครื่องประดับผลิตภัณฑ์ยางผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เป็นต้น อีกทั้งยังเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้น

สนค.จึงได้ศึกษาวิเคราะห์สินค้าระดับรอง ที่มีศักยภาพในการส่งออก มีการขยายตัวดี มีความต้องการจากตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง แต่ไทยยังส่งออกได้น้อย เพื่อผลักดันการส่งออกต่อไป

ส่งออกไทย กระทรวงพาณิชย์
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค.

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. บอกว่า  สนค.จะหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางและกลยุทธ์ผลักดันการส่งออกสินค้าระดับรอง รวมถึงการหาตลาดใหม่ๆ เพื่อเร่งขยับตัวเลขส่งออก และทำให้การส่งออกยังเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

สำหรับสินค้าระดับรอง ที่มีแนวโน้มการเติบโตดี เช่น สินค้าเกษตร อาทิ สับปะรดสด ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง ลำไยแช่เย็นจนแข็ง ข้าวโพดอ่อนสดหรือแช่เย็น เห็ดสดหรือแช่เย็น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไข่ไก่สด ธัญพืช ถั่วเขียวผิวมัน และถั่วเขียวผิวดำ

สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ สิ่งปรุงรสอาหาร นมและผลิตภัณฑ์นม และไอศกรีม

สินค้าอุตสาหกรรม อาทิ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับจุดระเบิดเครื่องยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ เครื่องกีฬาและเครื่องเล่นเกม

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธปท. คาดไตรมาส 2 ส่งออก-เบิกจ่ายภาครัฐ-ท่องเที่ยว ช่วยหนุนเศรษฐกิจ