AWC เปิดใหม่ Tea House มิวเซียมอาหารอาร์ตเฟสต์

AWC เปิดรายวันโครงการใหม่ “Asiatique Ancient Tea House” ยกตำนานติ่มซำโลกริมเจ้าพระยา ปั้นจุดขายไทยเป็นสนามแม่เหล็กท่องเที่ยวเชิงอาหารและ Living Museum & Art Festival

  • AWC ลงทุนพลิกโฉมเรือนไม้ประวัติศาสตร์ท่าเรือแห่งแรกสยามเสิร์ฟติ่มซำวัฒนธรรมชา
  • คัดชาดังทั่วโลก จีน ญี่ปุ่น อินเดีย แอฟริกา มารวมไว้ในร้านแห่งใหม่ริมเจ้าพระยา
  • เนรมิตรร้านชาเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดึงตลาดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่า ได้เปิดบริการใหม่ “Asiatique Ancient Tea House” ร้านติ่มซำในเรือนไม้เก่าแก่อายุนับศตวรรษตรงพื้นที่ริมแม่น้ำท่าเรือแห่งแรกในสยามอยู่ในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่นวางกลยุทธ์นำเสนอเมนูติ่มซําและชาระดับพรีเมียมของห้องอาหารจีนพาโกด้าชื่อดังจากโรงแรมแบงค็อก แมริออทมาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค วางเป้าหมายช่วยผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางเรื่องอาหารและวัฒนธรรมระดับโลกเชื่อมโยงการท่องเที่ยวริมแม่น้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯและประเทศควบคู่กันไป

โดยมีจุดขายโดดเด่นที่ได้อนุรักษ์เรือนไม้โบราณอายุกว่าศตวรรษมาถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันงดงามของพื้นที่อันทรงคุณค่าจากอดีตสู่ปัจจุบันช่วยพัฒนาให้ชุมชนและสังคมรอบข้างยั่งยืน สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายเงินได้ทุกวันด้วยแนวคิด All Day Everyday Happiness พร้อมกับใช้แก่นแท้วัฒนธรรมการชงชาแบบดั้งเดิมเข้ากับวิถีชีวิตแบบร่วมสมัยริมสายน้ำ เสริมจุดแข็งให้เอเชียทีคเป็นสุดยอดแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ศูนย์รวมอาหารและเครื่องดื่มยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ภายในร้าน Asiatique Ancient Tea House เปิดบริการตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน 12.00 – 24.00 น. มีติ่มซําจีนระดับพรีเมียมทั้ง หยำฉ่า ค็อกเทล พร้อมเสริฟ์ตลอดทั้งวัน ปรุงจากวัตถุดิบผลิตในท้องถิ่นดีต่อสุขภาพ และมีเมนูซิกเนเจอร์ ได้แก่ ฮะเก๋ากุ้ง ขนมปังกรอบเสริฟ์พร้อมกับกุ้ง แฮมโพรชุตโต้ ฟัวกราโรยงาย่างกระทะหอมกรุ่น เป๋าฮื้อแอฟริกาใต้ตุ๋นกับเส้นบะหมี่ รับประทานคู่กับชาระดับพรีเมียมจากหลายภูมิภาคที่มีประวัติศาสตร์ทางการค้าในอดีตร่วมกัน เช่น Silk Dark Tea และ Thida Green Tea จากฟาร์มออร์แกนิกในเชียงดาว Bai Mu Dan White Tea จากจีน Sencha Green Tea จากญี่ปุ่น Darjeeling First Flush Dark Tea จากอินเดีย Rooibos Tisane จากแอฟริกาใต้ และชาอื่น ๆ อีกมากมาย

เสริมทัพด้วยของหวานคือ แปะก๊วยซุปฟักทอง กับเมนูเครื่องดื่มช่วงเย็น เช่น ม็อกเทล วิสกี้ จินที่ผสมผสานกลิ่นอายจากชาให้เลือกสรร และ 3 เมนูซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชาเขียว ชาขาวและชาดําจากจีน

ขณะเดียวกันก็ได้ดีไซน์ให้ “Asiatique Ancient Tea House” เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตของนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาร่วมค้นหาเส้นทางศิลปะแห่งชาผ่าน 3 เรื่องราว ของ “การค้นพบชาและวัฒนธรรมชา” เรื่องแรก Hint of Heaven สถานที่แห่งแรกที่ค้นพบชาซึ่งเรือนกระจกใสล้อมรอบด้วยสวนต้นไม้เขียวขจี เรื่องที่สอง1890’s Blend Gallery ตกแต่งห้องจัดแสดงชาชั้นดี เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่นัดพบปะพูดคุยกัน เรื่องที่สาม The Blooming ออกแบบห้องน้ำชาชั้น 2 สุดหรู บ่งบอกถึงยุคเฟื่องฟูในวัฒนธรรมการดื่มชา ภายในอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลของอาคารประวัติศาสตร์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างซุ้มโค้งรูปเกือกม้า วอลล์เปเปอร์ลวดลายเครื่องกระเบื้องพอร์ซเลนอันโด่งดัง เช่น ลายถ้วยชาทรงผักกาด ลายกินรี แต่ละมุมมีงานศิลปะ จัดแสดงคอลเลคชั่นชาและเครื่องกระเบื้องพอร์ซเลน เน้นใช้โทนสีดํา สีแดง และสีทอง เป็นสัญลักษณ์และเสน่ห์ประวัติศาสตร์ชาโบราณ

ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์ 3 ไฮไลต์ ได้แก่ 1.ห้องอาหาร The Crystal Grill House เป็นเสมือนห้องรับแขกต้อนรับพ่อค้าวาณิชจากทั่วโลกที่เดินทางมาเทียบท่าท่าเรือ 2.สิริมหรรณพ ร้านอาหารบนเรือใบสามเสาประวัติศาสตร์ที่นําความเจริญรุ่งเรืองจากทั่วโลกมาสู่สยาม 3.The Siam Tea Room’ ห้องอาหารไทยตำรับดั้งเดิมริมแม่น้ำ รวมกันอยู่ในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น