

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เผยชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้ ไป 6 โครงการ เหตุเศรษฐกิจไม่ดี แนะรัฐ-ธปท. ทบทวน LTV จะช่วยกระตุ้นภาค อสังหาฯ ได้ โดยไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว ไม่หวั่นผุดโครงการ “เพอร์เฟค เพลสราชพฤกษ์–รัตนาธิเบศร์” กระตุ้นตลาด อสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลัง เผยยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งกระฉูด บ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้าน หนักสุด!
- ชูโครงการใหม่ เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์–รัตนาธิเบศร์ ปรับโฉมครั้งใหญ่ เปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ราคา 10-18 ล้านบาท
- ชี้หาก ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก และเฟด เชื่อมีผลช่วยฟื้นภาคอสังหาฯ ได้
- เผยผู้ประกอบการ ทยอยปรับแผนชะลอเปิดโครงการใหม่ สะท้อนการลงทุนของภาคเอกชน ในปีนี้ ลดลงมาก
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจช่วงครึ่งหลังของปี 67 นี้ บริษัทฯ เปิดโครงการใหม่เพียง 1 โครงการ จากแผนเดิมที่วางไว้จะเปิดทั้งหมด 7 โครงการโดยอีก 6 โครงการที่ยังไม่เปิด จะขยับไปเปิดในช่วงปี 68 แทน โดยเหตุผลที่ต้องเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ออกไปเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจเวลานี้ ยังไม่ดี กำลังซื้อผู้บริโภคถดถอยมาก
“การเปิดตัวโครงการใหม่ที่ลดลง ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ถือเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนของภาคเอกชนในปีนี้ ลดลงมาก ซึ่งก็ไม่ได้เป็นแค่กับบริษัทเราอย่างเดียว ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่เช่นกัน”
แนะแนวทางช่วย ไม่เสียเงินแม้บาทเดียว

นายวงศกรณ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่อยากบอกไปถึงภาครัฐคือ อยากให้จริงจังกับการแก้ปัญหาเรื่องดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือนโดยมองว่าการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ของรัฐบาลขณะนี้ อาทิ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่ใช้เม็ดเงินมหาศาล 450,000 ล้านบาท อาจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
“หากเปลี่ยนมาเป็นการที่ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาผ่อนปรน หรือยกเลิกมาตรการ Loan to Value (LTV) หรืออัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้าน โดยเทียบกับมูลค่า นั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาล หรือ ธปท. ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว
โดยอาจจะเป็นการระงับการบังคับใช้ LTV ออกไปก่อน โดยกำหนดช่วงระยะเวลา อาทิ 2 ปี 3 ปี หรืออาจจะเลือกวิธีการระงับ การมีผลบังคับใช้ในบ้านหลังที่ 1 และหลังที่ 2 โดยอาจให้ไปมีผลในบ้านหลังที่ 3 เป็นต้นไป ขอย้ำว่า สิ่งนี้เป็นการลงมือทำ ที่ภาครัฐไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว”
นายวงศกรณ์ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องภาวะดอกเบี้ย จากการติดตามข่าวสาร ก็พบว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เป็นช่วงขาขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน 5 ปี
โดยคาดว่า ในเดือน ก.ย.นี้ เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งก็หวังว่า ทางธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกันเพื่อให้สอดคล้องกับทางเฟด โดยสิ่งนี้ก็จะช่วยเศรษฐกกิจประเทศไทยได้ระดับหนึ่ง

แค่ปรับลดดอกเบี้ย เศรษฐกิจขยับแน่
“การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแค่ 0.25% มีผลทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น เหตุเพราะธุรกิจอสังหาฯ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับอัตราดอกเบี้ยโดยตรง อาทิ ดอกเบี้ยลดลง 1% ก็จะมีผลทำให้ต้นทุนของการซื้อบ้านลดลงไป 11% โดยผู้ซื้อบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อเงินสด จะเป็นรูปแบบการผ่อนชำระ ซึ่งดอกเบี้ยลดลง 1% ก็มีผลทำให้อำนาจในการผ่อนบ้านสูงขึ้น 11%”
นายวงศกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า การที่ ธปท. จะปรับลดดอกเบี้ยลงตามเฟด ก็เป็นเรื่องที่ควรดำเนินการ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นการปรับลดแบบครั้งเดียว จะเป็นการทยอยปรับ ก็จะมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการซื้อที่สูงขึ้น คาดว่าในช่วงปลายปี 67 หรือ ไตรมาส 4 กำลังซื้อที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวได้ดี โดยหากปี 68 ธปท. ยังเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะสามารถพลิกฟื้นมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้งหนึ่ง
ผุดโครงการใหม่ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ

ทั้งนี้ ในส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัว “เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์–รัตนาธิเบศร์” บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ ปรับโฉมเปลี่ยนดีไซน์ ตอบโจทย์ครอบครัวขยาย เน้นจับกลุ่มเซกเมนต์กลางบน ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีศักยภาพสูงในตลาด พร้อมมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ เพื่อตอบรับเทรนด์การอยู่อาศัยของครอบครัวขยาย
สำหรับโครงการ เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์ – รัตนาธิเบศร์ มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 45 ไร่ มีจำนวน 163 ยูนิต ขนาดที่ดิน 52-135 ตารางวา เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในให้มากขึ้นขนาดตั้งแต่ 221-340 ตารางเมตร ในราคา 10-18 ล้านบาท

ไฮไลท์ของโครงการอยู่ที่รูปแบบบ้าน ที่เป็นการอัพเกรดแบรนด์ “เพอร์เฟค เพลส” สู่ภาพลักษณ์หรูหรา กับแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทั้งรูปแบบภายนอก พื้นที่ภายในบ้าน และการจัดวางฟังก์ชั่น โดยรูปแบบบ้านเป็นซีรีส์ใหม่สไตล์ Modern Luxury มีให้เลือก 4 แบบ
นายวงศกรณ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันภาพรวมในเรื่องการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย มียอดการปฏิเสธสินเชื่อสูงมาก โดยเฉพาะบ้านในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มียอดปฏิเสธถึง 70% บ้านระดับราคา 3 – 7 ล้านบาท ยอดปฏิเสธอยู่ที่50% อีกทั้งยังลามไปถึงบ้านระดับ 7-10 ล้านบาท ก็มียอดปฏิเสธสินเชื่อถึง 10% เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตลาดอสังหาฯปี2567 ฟื้นตัวได้ไม่มาก เหตุเศรษฐกิจฉุดขา
