“เศรษฐา”ดันท่องเที่ยวสมุยท็อป10โลก-นครศรีปลุกสายมู

นายกฯเศรษฐาลั่นดันสมุยผงาดเกาะท่องเที่ยวท็อป10โลกสั่งผุด 3 โปรเจกต์มารีน่าสนามบินทางทะเลเปิดดิวตี้ฟรีส่วนนครศรีเร่งกระทรวงการท่องเที่ยวททท.โปรโมทเพิ่มทัวร์สายมู

  • นายกฯเศรษฐาไม่แผ่ว 6-8 เม..ลงพื้นที่สุราษฎร์นครศรีธรรมราชสั่งการบ้านเพียบ
  • คมนาคมท่องเที่ยวรับโจทย์ใหม่ขยายสนามบินบนบก/ในทะเลดึงทัวร์เพิ่มรายได้
  • ยาหอมชาวสมุยรอเครื่องแอร์บัสA320-โบอิ้งB737 ปลายปี67จะเดินสายตรวจอีกครั้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ระหว่างลงพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เห็นศักยภาพทางการท่องเที่ยวจึงตั้งเป้าหมายยกระดับเกาะระดับโลกให้ติดอันดับท็อป 10 จากปัจจุบันติดท็อป 20 ของโลก ซึ่งคนส่วนใหญ่รับรู้ถึงทะเลสวย หาดทรายสวย รอยยิ้มที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทุกคน ส่วนตัวเห็นสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในเกาะสมุยอีกมาก ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ศาสนา อาหารการกิน จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ช่วยกันโปรโมทมากขึ้นดึงดูดนักท่องเที่ยวพักอยู่นานวันมากขึ้น

พร้อมทั้งสั่งการบ้านไว้พร้อมกำชับจะเดินทางกลับมาสมุยอีกครั้งช่วยปลายปี 2567 ระหว่างนี้ขอให้แต่ละฝ่ายเดินหน้าพัฒนาการลงทุน 3 โครงการ ได้แก่

โครงการที่ 1 ท่าเรือสำราญเรื่องมารีน่า หลังจากเดินทางไปดูโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ตรงแหลมหินคม ตอนนี้มีเอกชนหลายรายสนใจลงทุนท่าเรือแห่งนี้ สร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่

โครงการที่ 2 ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อเปิดบริการสนามบินทางทะเลหรือ Sea plane terminal โดยสั่งการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมบรรจุเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ได้ก่อนสิ้นปี 2567 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่กับชาวสมุย

นายกฯ เศรษฐา ยืนยันว่ามีนโยบายด้านคมนาคมได้พูดคุยกับเอกชนเจ้าของสนามบินสมุยแล้ว ถ้าหากขยายเพิ่มได้ จะทำให้เกาะสมุยรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แล้วยังจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้อีกมาก รวมทั้งได้ไปตรวจเยี่ยมสนามบินสมุยก่อนออกเดินทางไปนครศรีธรรมราช น่าจะเป็นข่าวดีเพราะสนามบินสมุยทำการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายรันเวย์ คาดจะเสร็จต้นปี 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเรื่องที่ดินและการลงทุน  หากแล้วเสร็จจะรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส A320 และโบอิ้ง B-737 รับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและทำงานอย่างใกล้ชิดกับเอกชน ผลักดันเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมาขึ้นลงมากขึ้น ด้วยการต้องคำนึงถึงพี่น้องประชาชนชาวสมุยด้านสภาพแวดล้อมต้องพยายามช่วยกันดูแลรักษาด้วย 

โครงการที่ 3 เปิดร้านค้าดิวตี้ฟรี เกาะสมุย หากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากก็พิจารณาให้เอกชนประมูลร้านค้าดิวตี้ฟรี พร้อมทั้งนำผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองวางขายได้ด้วยทำให้ทุกคนมีรายได้ที่สูงขึ้นต่อไป 

สำหรับพื้นที่เกาะสมุยปัจจุบันกำลังเผชิญปัญหาขยะรุนแรง ได้แก่ ปัญหาเตาเผาขยะชำรุด ไม่สามารถเผาขยะได้ ส่งผลให้มีปริมาณขยะสะสมมากถึง 300,000 ตัน ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีนำขยะไปบริหารจัดการแล้วประมาณ 150,000 ตัน แล้วจะเร่งดำเนินการส่วนที่เหลืออีก 150,000 ตัน 

และหากพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือเกาะสมุยเพิ่มตามข้อเสนอจากนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ครั้งนี้ เกาะสมุยจะปริมาณเพิ่มวันละ 300 ตันต่อวัน จากปัจจุบัน 150-200 ตัน จึงต้องมีแผนระยะยาวในการบริหารจัดการขยะบนเกาะของตัวเอง ทำโรงเผาขยะด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันเผาได้วันละกว่า 300 ตัน และอาจต้องทำโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะเสริมด้วยก็จะเป็นเรื่องที่ดีกับประชาชนชาวเกาะสมุยในระยะยาว 

จากนั้นวันที่ 8 เมษายน 2567 นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่ต่อเนื่องไปตรวจเยี่ยม “จังหวัดนครศรีธรรมราช” พร้อมทั้งกำชับเรื่องการท่องเที่ยวอีกจังหวัด เน้นให้ปลุกกระแสการท่องเที่ยวสายศรัทธาและสายมูเตลู หลังจากแวะไปชมไอ้ไข่วัดเจดีย์ อำเภอสิชล และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช 

นายกฯ เศรษฐา กล่าวว่า นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดใหญ่ ต้องเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก และต้องทำให้เป็นที่รู้จักของคนไทยและชาวต่างชาติ เพราะมีนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ มาเลเซีย มาท่องเที่ยวเยอะ ด้วยจุดเด่นทั้งความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประเพณี แหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา เหมาะสมจะส่งเสริมให้เป็นจุดหมายปลายทางของสายการบินต่างชาติด้วยส่วนภาคเกษตรรัฐบาลก็จะทำต่อเรื่องยกระดับราคา แวันนี้มารับโจทย์จากพี่น้องภาคเกษตรเพิ่มเพื่อกลับไปทำการบ้านแล้วอีก 6 เดือนจะกลับมาติดตามผลอีกครั้ง

ทั้งนี้นายเศรษฐา ได้ลงพื้นที่พร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และนักการเมืองในพื้นที่ ระหว่าง 6-8 เมษายน 2567 ไปยังเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเยี่ยมชมสวนทุเรียน แหล่งเกษตร ตรวจระบบโครงสร้างพื้นฐาน ชมนิทรรศการสินค้าโอท็อป และประชุมหารือบูรณาการกับทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เช่นเดียวกับที่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็ได้ทำกิจกรรมในลักษณะใกล้เคียงกัน พร้อมกับเปิดรับฟังข้อเสนอแนะจากเอกชนทุกกลุ่มอาชีพด้วย -เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน