

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT ลุยลงพื้นที่ ตรวจสอบราคาตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ลั่นกำชับสายการบิน ดูแลสิทธิผู้โดยสารหากเที่ยวบินล่าช้า หรือยกเลิก พร้อมเพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยของอากาศยาน และการปฏิบัติการบินอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ธ.ค.67) ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ลงพื้นตรวจสอบค่าโดยสารเส้นทางภายในประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง โดยการตรวจสอบในครั้งเป็นตรวจดูว่า แต่ละสายการบิน ได้แสดงราคาค่าโดยสารในทุกเส้นทางภายในประเทศ ณ สถานที่จำหน่ายบัตรโดยสารอย่างเปิดเผย และจำหน่ายบัตรโดยสารไม่เกินเพดานที่กำหนดหรือไม่
โดยทาง CAAT ได้ตรวจค่าโดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ ในเส้นทางที่ผู้โดยสารนิยมเดินทาง เช่น กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ และกลับ , กรุงเทพฯ – ภูเก็ต และกลับ , กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ และกลับ, กรุงเทพฯ-กระบี่ และกลับ เป็นต้น
ซึ่งจากการตรวจสอบค่าโดยสาร ไม่พบว่า มีการจำหน่ายบัตรโดยสารเกินเพดานราคาตามที่ CAAT กำหนด และบัตรโดยสารที่เดินทางในช่วงปีใหม่ ส่วนใหญ่ได้ถูกจำหน่ายล่วงหน้าไปจนเกือบหมดแล้ว ทำให้ราคาบัตรโดยสารที่เหลืออยู่สำหรับการซื้อเพื่อเดินทางทันที มีราคาค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า มาตรการดังกล่าวส่งผลให้มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยตอบสนองต่อความต้องการ และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารได้มากขึ้น
แต่ด้วยจำนวนอากาศยาน ที่ยังมีจำนวนน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ทำให้ในบางเส้นทางที่มีจำนวนสายการบินให้บริการน้อย มีราคาค่าโดยสารใกล้เคียงกับราคาเพดาน เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-แม่สอด เป็นต้น ซึ่ง CAAT จะเร่งรัดดำเนินการร่วมกับสายการบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการส่งเสริมการทำการบินไปยังเมืองรองในระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทาง CAAT ได้กำชับสายการบินให้รักษามาตรฐานการให้บริการ ทั้งเรื่องความตรงต่อเวลา และระดับคุณภาพการให้บริการ รวมทั้งเน้นย้ำให้สายการบินบริหารจัดการไม่ให้เกิดปัญหาเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิก หากเกิดกรณีเที่ยวบินล่าช้า สายการบินต้องแจ้งให้ผู้โดยสารทราบทันที และต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทย ในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553 อย่างเคร่งครัด
รวมถึงขอให้สายการบิน จัดให้มีพนักงานผู้มีอำนาจตัดสินใจประจำ ณ จุดที่ให้บริการสายการบินตลอดระยะเวลาที่มีเที่ยวบินให้บริการ รวมทั้งมีช่องทางการติดต่อ และรับข้อร้องเรียนของผู้โดยสารที่มีประสิทธิภาพ และหากผู้โดยสารไม่ได้รับการดูแลชดเชยตามสิทธิดังกล่าว สามารถร้องเรียนได้ที่www.caat.or.th/complaint
นอกจากนี้ในด้านมาตรฐานความปลอดภัย CAAT โดยฝ่ายมาตรฐานปฏิบัติการบิน และฝ่ายสมควรเดินอากาศและวิศวกรรมการบิน ได้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบอากาศยานและการปฏิบัติการบิน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ใช้บริการ โดยมีการเพิ่มความถี่ในตรวจสอบ Ramp inspection สายการบินของไทย ที่ทำการบินทั้งเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ
โดยตรวจสอบความพร้อมของอากาศยาน ผู้ปฏิบัติหน้าที่ (นักบิน และลูกเรือ) รวมถึงการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง เช่นการบริการภาคพื้นในเขตสนามบิน และในเขตลานจอดเครื่องบิน CAAT สุ่มตรวจระหว่างการปฏิบัติงานจริง ก่อนเที่ยวบินจะออกเดินทาง โดยตรวจสอบสภาพอากาศยาน สภาพห้องโดยสาร ผู้ปฏิบัติหน้าที่ (นักบินและลูกเรือ) อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่ติดตั้งในอากาศยาน รวมถึงมาตรฐานการปฏิบัติงานตามที่ CAAT รับรองหรือเห็นชอบ
นอกจากนี้ ในส่วนกรณีที่มีการตรวจพบข้อบกพร่อง ระหว่างการตรวจสอบ CAAT จะมีคำสั่งให้สายการบินทำการแก้ไข เพื่อให้สามารถปฏิบัติการบินให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ การเพิ่มการตรวจสอบ Ramp Inspection ในช่วงเทศกาล จะเน้นการสื่อสารสร้างความเข้าใจให้สายการบินเตรียมความพร้อมของผู้ปฏิบัติหน้าที่สภาพอากาศยาน ชิ้นส่วนอะไหล่ที่สำคัญๆ รวมถึงแผนสำรองหากอากาศยานเกิดขัดข้อง เนื่องจากในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวจะมีเที่ยวบินมากกว่าช่วงปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ข่าวดี!! AOT นำสนามบินรักษ์โลก ติด DJSI “World ปีที่6-Emerging ปีที่10”