“สุริยะ” ลั่น ยืนยัน! นั่งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไม่มีเบรค ต้องเดินหน้าต่อ



“สุริยะ” ลั่น ยันเดินหน้านโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายต่อเนื่อง จ่อชง ครม. ชุดใหม่ เคาะต่ออายุมาตรการ “สุริยะ” ลั่น การันตีจะทำให้ครบทุกสี-ทุกสาย ภายใน ก.ย. 68 เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ด้านการเดินทางให้ประชาชน

  • พร้อมเตรียมจ้างที่ปรึกษาศึกษา การซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าอย่างละเอียด
  • มอบ สนข. ศึกษาแนวทางจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ยึดโมเดลต่างประเทศ ศึกษาโดยละเอียด
  • มั่นใจช่วยลดค่าครองชีพ-แก้ปัญหาจราจรติดขัด เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า สูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือ 20 บาทตลอดสาย ว่า ตามที่ได้เปิดใช้นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ใน 2 โครงการได้แก่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16ต.ค.66 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พบว่า ผู้โดยสารให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้รายงานว่า จำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย(ข้อมูล ณ เดือน มิ.ย.67) เพิ่มขึ้น 26.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ จากข้อมูลยังระบุว่า รถไฟชานเมืองสายสีแดง มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 51.15% และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เพิ่มขึ้น 17.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน ปริมาณผู้โดยสาร ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยผู้โดยสารประจำเดือน ก.ค.67 พบว่า มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง รวม 2,166,099 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.67 ที่มีผู้ใช้งานจำนวน 2,014,473 ราย ขณะที่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง มีผู้ใช้บริการรวม 982,825 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.67 ที่มีผู้ใช้บริการ 899,389 ราย

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันว่า นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ต่ออายุมาตรการที่จะครบในวันที่ 30 พ.ย.67 อีกทั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. สอดคล้องกับแผนที่กำหนดไว้ว่า ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะสามารถใช้ได้ในทุกเส้นทาง ทุกสี ภายในเดือน ก.ย.68 อย่างแน่นอน เพื่อลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวคิดการซื้อสัมปทานการบริหารโครงการรถไฟฟ้า จากภาคเอกชนคืนกลับมา เป็นของรัฐบาลนั้น ล่าสุดอยู่ระหว่างการเตรียมว่าจ้างที่ปรึกษา ดำเนินการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบถึงแนวคิดดังกล่าวในทุกมิติ

พร้อมทั้งพิจารณาข้อดี-ข้อเสีย และคำนวณรายได้ และค่าใช้จ่าย ทั้งต่อวัน, ต่อเดือน และต่อปี ซึ่งเป้าหมายของการซื้อคืน โครงการรถไฟฟ้านั้น เพื่อให้ประชาชนจะได้รับบริการรถไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง และลดค่าครองชีพ ด้านการเดินทางให้กับประชาชน พร้อมทั้งต้องการผลักดัน นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยยืนยันว่า จะไม่กระทบกับเอกชนที่เป็นคู่สัญญาอยู่ในปัจจุบัน และได้รับรายได้กลับไปอย่างเหมาะสม

“การพิจารณาแนวทางซื้อคืนรถไฟฟ้าครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการยึดสัมปทาน คืนจากเอกชน แต่เป็นการซื้อคืนระบบเดินรถรวมถึงสิทธิ์การเดินรถ แล้วจ้างเอกชนรายเดิมเดินรถ โดยเปลี่ยนสัญญาจากรูปแบบ PPP Net Cross เป็น PPP Gross Cost ซึ่งประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด หากกระบวนการศึกษาเสร็จสิ้น จะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ ความคืบหน้าต่อไป“ นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการดังกล่าว และนำรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ส่งเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ที่จะจัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงการคลัง เพื่อสนับสนุนในการรณรงค์ให้ประชาชน ใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น รวมถึงยังเป็นการแก้ปัญหาจราจรจิดขัด

ทั้งนี้ ล่าสุด สนข. รายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนในการศึกษา Congestion Charge จากหน่วยงาน UK PACT โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักร เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ในการกำหนดนโยบายเพื่อใช้กำหนดรูปแบบ และวิธีการ

ตลอดจนค่าธรรมเนียม ในการนำรถยนต์ส่วนบุคคล เข้ามาในเขตพื้นที่ ที่มีการติดขัดของการจราจรสูง โดยจะต้องศึกษามาตรการที่เหมาะสมกับบริบทของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปริมณฑล และประเทศไทย ซึ่งในพื้นที่นั้น ๆ จะต้องมีการพัฒนาระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้า และรถขนส่งสาธารณะ อย่างครอบคลุม และมีความสะดวกในการใช้งานแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ได้มีการใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี สวีเดน สิงคโปร์ เป็นต้น โดยดำเนินการเพื่อช่วยสนับสนุน และส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น

อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยมลพิษ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง สนข. ได้เคยมีการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น (Pre-Feasibility) ของการใช้มาตรการ Congestion Charge โดยการสนับสนุนจากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของ เยอรมนี (GIZ) ด้วย

กระทรวงคมนาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สภากทม. พร้อมหนุนคมนาคม ร่วมดันนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย