“สุริยะ” แจงชัด! ปม ซื้อคืนรถไฟฟ้า-ลุยจ้างเอกชนเดินรถ

รถไฟฟ้า สายสีชมพู


“สุริยะ” แจงปม ซื้อคืนรถไฟฟ้า ลุยจ้างเอกชนเดินรถ รับนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชี้ปรับรูปแบบสัญญาพร้อมเร่งหารือกระทรวงการคลัง จัดตั้ง “กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน” นำงบประมาณมาดำเนินการ

  • เผยทำเพื่อประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน ได้ใช้รถไฟฟ้าในราคาถูกลง แก้ปัญหาการจราจรติดขัด
  • ปรับสัญญาสัมปทานจาก PPP Net Cost เอกชนได้รับสิทธิ์ในการลงทุน ระบบเดินรถ และการให้บริการเดินรถ
  • เปลี่ยนมาเป็น PPP Gross Cost ที่ภาครัฐเป็นผู้จัดเก็บรายได้เองทั้งหมด และชดเชยค่าใช้จ่ายลงทุนระบบเดินรถใ
  • ส่วนที่เอกชนได้ลงทุนไปในระบบเดินรถ คืนให้บริษัทเอกชนคู่สัญญา

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแนวคิดการซื้อสัมปทาน การบริหารโครงการรถไฟฟ้าจากภาคเอกชนคืนกลับมาเป็นของรัฐบาลว่า แนวคิดดังกล่าว กระทรวงคมนาคมได้ทำการศึกษาอยู่แล้ว โดยศึกษาจากต่างประเทศหลายๆ ประเทศ เพื่อให้รัฐบาลสามารถควบคุมอัตราค่าโดยสาร สอดคล้องนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล ที่ต้องการลดค่าครองชีพด้านการเดินทางให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ยึดสัมปทานโครงการรถไฟฟ้า โดยไม่คำนึงถึงสัญญาที่จัดทำไว้กับเอกชน ผู้ประกอบการแต่อย่างใด โดยจะยึดถือสัญญาที่ได้ทำไว้กับเอกชนเป็นหลัก แต่ยังเป็นเพียงแนวคิด ที่รัฐบาลอาจจะพิจารณา ถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการซื้อคืนระบบการเดินรถ ที่เอกชนได้ลงทุนไป รวมถึงสิทธิ์ในส่วนการให้บริการเดินรถตามสัญญา ที่รัฐบาลได้ทำไว้กับเอกชนกลับคืนมาโดยทางรัฐบาล จะยังคงจ้างเอกชนรายเดิมเป็นผู้เดินรถต่อไป

อย่างไรก็ตาม จะทำให้รัฐบาลมีอิสระในการกำหนดนโยบายในเรื่องอัตราค่าโดยสาร และสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายได้ โดยไม่กระทบกับสัญญาสัมปทานเดิม

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคม เตรียมหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาถึงแนวทางที่จะสามารถดำเนินการ ผ่านการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) โดยยึดภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่

พร้อมทั้งมอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปดำเนินการศึกษา และวิเคราะห์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการดังกล่าว และนำรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ส่งเข้ากองทุนฯ ที่จะจัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนในการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น รวมถึงยังเป็นการแก้ปัญหาจราจรจิดขัดอีกด้วย

สำหรับรูปแบบการซื้อสัมปทานการบริหารโครงการรถไฟฟ้านั้น จะเจรจาร่วมกับเอกชนเพื่อปรับสัญญาสัมปทานจากรูปแบบ PPP Net Cost หรือเอกชนได้รับสิทธิ์ในการลงทุน ระบบเดินรถ และการให้บริการเดินรถ พร้อมทั้งเป็นผู้จัดเก็บรายได้ รวมถึงจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐ ตามข้อตกลงในสัญญา

โดยเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบ PPP Gross Cost ที่ภาครัฐเป็นผู้จัดเก็บรายได้เองทั้งหมด และรัฐชดเชยค่าใช้จ่ายลงทุนระบบเดินรถใน ส่วนที่เอกชนได้ลงทุนไปในระบบเดินรถคืนให้บริษัทเอกชนคู่สัญญา และรัฐจะจ้างเอกชนคู่สัญญารายเดิมเป็นผู้ให้บริการเดินรถ จนกว่าสัญญาสัมปทานเดิมจะสิ้นสุดลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะไม่กระทบกับสัญญาของเอกชนอย่างแน่นอน

“ข้อเท็จจริงของแนวคิดนี้ เป็นเพียงต้องการจะสื่อให้เห็นว่า เป็นการทำเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยประชาชนจะได้รับบริการรถไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง สอดคล้องกับนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในทุกสีทุกเส้นทาง และเมื่อราคาค่าโดยสารถูกลง มั่นใจว่า จะมีผู้โดยสารมาใช้มากขึ้น ดังเช่นสายสีแดง และสายสีม่วง ที่ได้มีการลดราคาไปแล้ว

รวมถึงจะทำให้ส่งผลถึงสภาพการจราจรในถนนตามแนวเส้นทางนั้นๆ ก็จะติดขัดน้อยลง โดยผมขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้เป็นการยึดสัมปทานคืนจากเอกชนแต่อย่างใด แต่เป็นการซื้อคืนระบบเดินรถและสิทธิ์การเดินรถ แล้วจ้างเดินรถโดยเปลี่ยนสัญญาจากรูปแบบ PPP Net Cross เป็น PPP Gross Cost ซึ่งประชาชนได้ประโยชน์ ผมอยากสร้างความเชื่อมั่นว่า เราไม่ได้ไปยึดสัมปทาน อาจจะมีการตีความผิด เพราะถ้าพูดแบบนั้น ต่อไปใครจะกล้าเข้ามาลงทุนกับรัฐอีกในอนาคต” นายสุริยะ กล่าว

กระทรวงคมนาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สภากทม. พร้อมหนุนคมนาคม ร่วมดันนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย