“สุริยะ” ห่วงใยพี่น้องประชาชน ประสบภัยเหตุ น้ำท่วมภาคเหนือ



“สุริยะ” ห่วงใยพี่น้องประชาชน ประสบภัยเหตุ น้ำท่วมภาคเหนือ สั่งเปิด “ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม” บูรณาการ-รับแจ้ง-แก้ไขเหตุ น้ำท่วมภาคเหนือ พร้อมมอบหมายทุกหน่วยงานฯ จัดเตรียมถุงยังชีพแจกจ่ายผู้ประสบภัย

  • พร้อมเข้าช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม.
  • ด้าน ทล.-ทช. อัพเดตสถานการณ์ในพื้นที่ ส่วน ทอท. ยันไม่กระทบสนามบิน
  • ลุยเตรียมแผนรับมือเต็มที่ รองรับการเดินทางผู้โดยสาร

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วมฉับพลัน) น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในภาคเหนือที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั้น กระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ ได้มอบหมาย และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทลจากอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งสั่งเปิด “ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม” ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการ สั่งการ รับแจ้งเหตุ ประสานข้อมูลการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน และภายนอกกระทรวงฯ เพื่อบูรณาการการรายงานผลในการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมถุงยังชีพ และของใช้จำเป็น เพื่อแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้ พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแล และอำนวยความสะดวกการสัญจรบนเส้นทางการจราจรต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

รวมถึงติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังได้ให้ทุกหน่วยงานรายงานความคืบหน้า และความเคลื่อนไหวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันที เพื่อเตรียมแผนรับมือและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กรมทางหลวง (ทล.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วม และดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง (ณ วันที่ 22 ส.ค.67) ได้รับผลกระทบใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย น่าน พะเยา เชียงราย และแพร่ รวม 13 แห่ง จำนวน 8 สายทาง การจราจรสามารถผ่านได้ 3 แห่ง และผ่านไม่ได้อีก 10 แห่ง

ทั้งนี้ ในทุกจุดที่เกิดเหตุนั้น มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สถานการณ์การสัญจรกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางมีความปลอดภัยระดับสูงสุด

ขณะเดียวกัน ทล. ได้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักร เพื่อลงพื้นที่เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมขอให้แจ้งมาที่สายด่วน 1586 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้รายงานว่า ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าลงพื้นที่โดยทันที เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ป้ายเตือน หลักนำทาง สะพานเบลีย์ และยานพาหนะให้มีความพร้อมรองรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับเส้นทางการสัญจรภายใต้การดูแลนั้น การจราจรสามารถสัญจรได้ตามปกติแล้ว หลังจากที่มีน้ำท่วมและเกิดเหตุดินสไลด์ จำนวน 6 สายทาง และยังไม่สามารถใช้เพื่อการสัญจรได้ จำนวน 13 เส้นทาง ซึ่งทุกจุดนั้นมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเส้นทางเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้รายงานว่า จากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มนั้น ท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้จัดเตรียมแผนการรองรับไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและบริหารจัดการน้ำภายใน ทชร.

โดยการขุดลอกระบบระบายน้ำแบบเปิด ซึ่งเป็นคูระบายน้ำโดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยาน และจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำด้านทิศเหนือที่ใช้บริหารจัดการน้ำภายใน ทชร. ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา และมีการตรวจสอบประตูน้ำว่าสามารถใช้งานได้ปกติ

นอกจากนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบกายภาพ และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมโดยรอบพร้อมประเมินสถานการณ์และรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภค บริโภค รวมถึงยารักษาโรคใน “ถุงยังชีพ” ตามข้อสั่งการของ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาภัยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภายในพื้นที่

ขณะเดียวกัน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ได้ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นำอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นในการยังชีพ แจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในการยังชีพในเบื้องต้น และหลังจากนั้น จะมีการติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อจะอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป

ในส่วนของกรมเจ้าท่า (จท.) นั้น ได้ส่งบุคลากรเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจัดเตรียมเรือตรวจการณ์ รถยนต์ และสิ่งของต่าง ๆ ไปมอบให้ผู้ประสบภัย และเข้าร่วมศูนย์ช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยของ ปภ. อำเภอเมือง และอำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่จะปฎิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้ผ่านวิกฤตไปได้ด้วยดี

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 ขณะที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลายแห่ง ซึ่งต้องฝ้าระวังบริเวณพื้นที่เสี่ยง ดังนี้ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลกเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ประกอบด้วย เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนครนครพนม

ภาคตะวันตก 4 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด และภาคใต้ 8 จังหวัด ประกอบด้วย ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล

กระทรวงคมนาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ภูมิธรรม’ สั่งการ กษ. ตั้งวอร์รูม เน้นการใช้ข้อมูลแม่นยำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม