คลัง รายงานครม.ความเห็นกฤษฎีกาให้อำนาจเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต”

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

“คลัง” รัฐบาลเดินหน้ากู้เงินมาแจก ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลัง กฤษฎีกา ให้ความเห็นว่า “ครม.-บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต” มีอำนาจกู้เงิน

  • ข้อสังเกตให้ปฏิบัติ ม.53และ ม.57 พ.ร.บ.วินัยการเงินเคร่งครัด 
  • รับฟังความเห็นและเสียงสะท้อนประชาชน  
  • ย้ำเศรษฐกิจไทยเปราะบาง ถึงเวลาต้องกระตุ้นแล้ว 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (9ม.ค.) คาดว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะนำความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ได้ตอบคำถามเรื่องการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต หรือแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ครม.ได้รับทราบว่า ครม.และคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีนายกรัฐมนตรีและรมว.เป็นประธาน มีอำนาจในการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท โดยมีข้อสังเกตดังนี้  จะต้องพิจารณาให้เป็นไปตามมาตรา 53 และ 57 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ความคุ้มค่าของโครงการทั้งก่อนและหลังการดำเนินการ  และต้องฟังความเห็นรอบด้านจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเสียงสะท้อนจากประชาชน 

“รัฐบาลยืนยันเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้อย่างเต็มที่ เพราะขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจถือว่าเปราะบางมาก ประชาชนเดือดร้อน ประเทศติดหล่มทางเศรษฐกิจมานาน ถึงเวลาต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะนี้ไม่มีใครชี้ว่าเศรษฐกิจหรือไม่วิกฤต แต่ทุกคนรับรู้รับทราบว่าเศรษฐกิจมีปัญหา โดยจะนำประเด็นทั้งหมดหารือในคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน คาดว่าจะนัดประชุมภายใน1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดตารางการทำงานให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งยังยืนยันว่าจะเริ่มดำเนินการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตภายในเดือนพ.ค.นี้” 

สำหรับม.53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ระบุว่า การกู้เงินของรัฐบาลนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ให้กระทรวงการคลังกระทำได้ตามอำนาจกฎหมาย และเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติ ของประเทศ โดยตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน และต้องระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาการกู้เงิน แผนงานใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ การดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้นั้น และม.57 จะกู้เงินได้ เฉพาะใช้จ่าย ตามแผนงานหรือโครงการที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือสังคม และเมื่อหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นเจ้าของ แผนงานหรือโครงการมีความพร้อมที่จะดําเนินการตามแผนงานหรือโครงการที่จะใช้จ่ายเงินกู้นั้นแล้ว