บางจากโชว์ทำสำเร็จนำทั่วไทย ต่อยอดลดคาร์บอนปี 67

กลุ่มบางจากเปิดความสำเร็จ “ผู้นำธุรกิจพลังงานลดคาร์บอน” ในและนอกองค์กรปี’ 66 ทำสถิติชดเชยคาร์บอนฟุตปริ๊นท์บุคคลและกิจกรรมทั่วไทย 3,000 ตัน 

  • บางจากควง Carbon Markets Club ขยายผลโมเดลลดคาร์บอนทั่วไทย
  • ปีใหม่ 10 คืน ร่วมดิ เอราวัณ 4 โรงแรมชวนนักท่องเที่ยวทำสำเร็จลดได้ 330 ตัน
  • ต่อยอดโมเดลภาคเกษตร แปลงนาข้าว ลดโลกเดือดรับมือวิกฤตโลก

นางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน Carbon Markets Club เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจากได้ทำภารกิจร่วมสร้างระบบนิเวศคาร์บอนต่ำตลอดปี66 เพื่อรับมือภาวะโลกเดือด โดยร่วมกับพันธมิตรเตรียมความพร้อมให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนที่ 1ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ สร้างความตระหนักถึงการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ส่วนที่ 2 นำเสนอกลไกคาร์บอน ทั้งระบบซื้อขายระบบภาษี และคาร์บอนเครดิต ถือเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยทั้งระดับบุคคล ชุมชน  SMEs และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ โดยตลอดปี66 กลุ่มบางจาก และ Carbon Markets Club ได้ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับบุคคลและงานอีเว้นท์ ของพันธมิตรต่าง ๆ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ล่าสุดกลุ่มบริษัทบางจาก และ Carbon Markets Club ร่วมกับบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ“Stay for Santa” ช่วงเทศกาลหยุดต่อเนื่องข้ามปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการลงมือนำร่องชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักโรงแรมในเครือ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป 4 แห่ง 10 คืน ระหว่าง 23ธ.ค.66 ถึง 2ม.ค.67 ประสบความสำเร็จสามารถรณรงค์นักท่องเที่ยวผู้เข้าพักโรงแรมช่วยกันลดคาร์บอนรวม 330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่งผลให้ตลอดปี66 ได้ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ส่วนบุคคลและกิจกรรมต่าง ๆ รวมแล้วประมาณ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

โดยเฉพาะ “ภายในองค์กรบางจาก” จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ปลุกจิตสำนึกพนักงานปรับพฤติกรรมร่วมลดก๊าซเรือนกระจก ผ่านการบันทึกด้วย Climate Action เช่น ลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง คัดแยกขยะไปรีไซเคิล ใช้บริการรถสาธารณะ หรือลดการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอื่น ๆ  ควบคู่กับรณรงค์พันธมิตร “ภายนอกองค์กร” ผ่าน Carbon Markets Club ซึ่งมีพันธมิตรธุรกิจร่วมก่อตั้งปี64 รวม 11 แห่งทำงานต่อเนื่องปีที่ 3 เห็นผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยสิ้นปี66 มีสมาชิกกว่า 750 ราย ทั้งประเภทบุคคลและองค์กร สามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิต TVERs และใบรับรองสิทธิเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน RECs ผ่าน Marketplace ทางเว็บไซต์ Carbon Markets Club รวมเกือบ 480,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าและ RECs รวมกว่า 1.6 ล้านหน่วย คิดเป็นการปลูกต้นไม้เทียบเท่ากว่า 150 ล้านต้น และพัฒนาระบบเปิดให้สมาชิกทดลองใช้วิธีคำนวณก๊าซเรือนกระจกองค์กร หรือ Carbon Footprint Tracking for Organization (CFO) ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนาระบบคำนวณจากมาตรฐาน ISO14064 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย พร้อมทำควบคู่กันอีก 5 โครงการ ได้แก่

1.  ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์รายบุคคลกับผู้บริหารระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ขึ้นไป กว่า 20 คนเป็น “กลุ่มผู้บริหารไร้คาร์บอน” ตั้งแต่ปี65
2. ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้ 3 นักแบดมินตันระดับโลกจากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด คือ“วิว” กุลวุฒิ  วิทิตศานต์ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ “จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ  
3. ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์กิจกรรมประเภทต่าง ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก เช่น การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก งานสัมมนาประจำปี Greenovative Forum การเป็นเจ้าภาพร่วมงานวิ่งโอลิมปิก Olympic Day Run ที่จังหวัดน่าน มุกดาหารและกาญจนบุรี
4. ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับงานสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 10 (ดอกไม้ระบายดอย: Palette of Flowers) ณ โครงการพัฒนาดอยตุง จ. เชียงราย
5. Stay for Santa กับโรงแรม 4 แห่งในเครือเอราวัณ กรุ๊ป ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักระหว่าง 23ธ.ค.66 -2 ม.ค. 67 รวม 10 คืน  330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

นางกลอยตา กล่าวว่า บริษัทฯ มีส่วนร่วมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาวะวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของสังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านกิจกรรมเผยแพร่ความรู้หลากหลายรูปแบบ ในงานสัมมนารับเชิญเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้หน่วยงานพันธมิตรและเวทีสาธารณะ เผยแพร่บทความผ่านเว็บไซต์ของ Carbon Markets Club ร่วมมือต่าง ๆ กับผู้มีส่วนได้เสียทางธุรกิจของบริษัทฯ เช่น “เครือข่ายสหกรณ์ลดโลกร้อน” โดย บริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรติดตั้งโซลาร์เซลล์และพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิตจากพลังงานหมุนเวียน ติดตั้งรวม 1.7 เมกะวัตต์ โครงการ “ข้าวลดโลกร้อน” ส่งเสริมสมาชิกเกษตรกรรักษ์โลกจากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นำข้าวลดโลกร้อนกว่า 40 ตัน มาเป็นสินค้าส่งเสริมการขายที่สถานีบริการน้ำมันบางจากช่วงวันสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ช่วยทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความภาคภูมิใจในกระบวนการผลิตที่รักษ์โลก

ปี 2567 กลุ่มบริษัทบางจาก ให้ความสำคัญการพัฒนาธุรกิจคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงทุกการเติบโตของบางจากมุ่งรักษาความสมดุลของมูลค่าและคุณค่า การเข้าถึงและความมั่นคงทางด้านพลังงานไปพร้อมกับการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค ชุมชน สังคม ได้ใช้สินค้าและบริการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมรับมือภาวะโลกเดือดซึ่งเป็นวิกฤตเร่งด่วนระดับโลกต่อไป -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน