“เศรษฐา”ยืนยันจากนิวยอร์ก ไม่คิดปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ

“เศรษฐา”ยืนยันจากนิวยอร์ก ไม่คิดปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ ได้รับทราบสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนแล้ว ผลบวกต่อส่งออกและท่องเที่ยว

  • ห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคอีสาน
  • มอบ “อนุทิน”- “ธรรมนัส” ช่วยดูแลก่อนมานิวยอร์ก
  • ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย

ผู้สื่อข่าว The Journalist club รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีที่มีกระแสข่าวจะปลดนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ว่า ไม่มีแนวคิดปลดผู้ว่าฯธปท. ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตลกมาก ทุกคนไปพูดว่านายกฯไม่มีสิทธิ์จะไปไล่ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ อย่าว่าแต่สิทธิ์เลย ความคิดยังไม่มีเลย และคราวนี้ไม่แน่ใจว่ามีข่าวมาได้อย่างไร

“เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผมและผู้ว่าแบงค์ชาติด้วย เราไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน ผมให้ความเคารพ ให้เกียรติ ต่างคนต่างเคารพซึ่งกันและกัน ” นายเศรษฐากล่าว

ทั้งนี้ ได้เคยเจอผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย 3 ครั้ง ตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมือง ก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าธปท.ได้เข้าไปที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ได้ให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งก็น้อมรับมาปฏิบัติ และได้เจอกันที่กระทรวงการคลังในวันที่มอบนโยบาย

นายเศรษฐา ยังกล่าวด้วยว่า ได้รับทราบสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนแล้ว แต่เรื่องนี้อยู่ในความดูแลของ ธปท. รัฐบาลไม่ได้ไปก้าวก่าย  เข้าใจว่าเป็นเรื่องของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนระยะสั้น ซึ่งทำให้เงินทุนไหลออก ไปประเทศอื่นที่มีส่วนต่างของดอกเบี้ยสูงกว่าเพื่อเก็งกำไร  อย่างไรก็ตาม เงินบาทอ่อนใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป เพราะมาช่วยเรื่องการส่งออก ทำให้ตัวเลขดีขึ้น หรือการท่องเที่ยว มีเงิน 1 เหรียญสหรัฐฯ แลกได้ 36 บาท ทำให้คนอยากมาท่องเที่ยวยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี มีการปรับตัวสูงขึ้น เพราะรัฐบาลระดมเงินทุนจำนวนมาก ทำให้กระทบต่อสภาพคล่องของเอกชนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สภาพคล่องในประเทศยังมีอยู่เยอะมาก ดังนั้นตรงนี้จึงไม่น่าใช่ประเด็น ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับกระทรวงการคลังแล้ว สภาพคล่องของไทยยังมีอยู่เยอะมาก จึงไม่น่ากังวลต่อสภาพคล่องของเอกชน

สำหรับกรณีวีซ่าฟรีที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ได้ย้ำถึงความสำคัญตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึงประเทศไทย ในขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่ตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า เรียกรถ จนไปถึงโรงแรม

ส่วนกรณีที่ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มีกำลังพลไม่พอนั้น ในเรื่องนี้ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกำชับไปแล้วว่าในช่วงเร่งด่วน ให้เปิดใช้ช่องทางการตรวจคนเข้าเมืองให้ครบทั้ง 150 ช่อง จากปัจจุบันที่เปิดใช้อยู่ประมาณ 70 ช่อง

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคอีสาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวล และจะมีภาวะเอลนีโญด้วย ซึ่งได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ตั้งแต่ก่อนเดินทางมาประชุมที่ยูเอ็น แล้ว กำชับให้ดูแลเรื่องนี้ ขณะเดียวกันได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ลงพื้นที่ตลอดตั้งแต่น้ำท่วมที่ จ.บึงกาฬ และสั่งการให้เร่งระบายน้ำออกโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร เพื่อให้พืชผลการเกษตรไม่เสียหาย ความเป็นอยู่ของพี่น้อง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยด้วย