คาดสัปดาห์หน้า “เงินบาท”แตะ 37 บาท ชี้ยังต้องจับตาดอกเบี้ยไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสัปดาห์หน้าค่าเงินบาทที่ระดับ 36.20-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ พร้อมจับตาสัปดาห์หน้าวันที่ 10 เม.ย. ลุ้นทิศทางดอกเบี้ยไทย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

  • จับตาสัปดาห์หน้าวันที่ 10 เม.ย.
  • ลุ้นทิศทางดอกเบี้ยไทย
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 6 เดือนที่ 36.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาบางส่วนปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค และแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ

ขณะที่ตลาดมุ่งความสนใจไปที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ของไทยในวันที่ 10 เม.ย. นี้ ด้านเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โดยมีแรงหนุนจากดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่น่าจะรีบส่งสัญญาณเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะใกล้ๆ นี้

อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ลดช่วงบวกลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ ดัชนี ISM ภาคบริการเดือนมี.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน) ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด และอาจมีแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

ในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย. 2567 เงินบาทเคลื่อนไหวอย่างผันผวน โดยแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 6 เดือนที่ 36.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 36.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (29 มี.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 1-5 เม.ย. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,846 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 9,550 ล้านบาท

สัปดาห์ถัดไป (8-12 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 36.20-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) และสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ยไทย (10 เม.ย.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 19-20 มี.ค. ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม ECB และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวน