สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ‘ดิสนีย์’ ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2021 ภายใต้ปีปฏิทินธุรกิจสิ้นสุด 2 มกราคม 2021 ของบริษัทพบว่ามีรายได้รวม 16,200 ล้านดอลลาร์ ลดลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปที่ผ่านมา แต่นับว่าเป็นตัวเลขที่อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของวอลล์สตรีท โดยผลกำไรยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่สถานการณ์ของ Disney+ ซึ่งได้รุกเข้าสู่ธุรกิจสตรีมมิ่งคอนเทนท์เติบโตเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
โดยตัวเลขผลกำไรในช่วงเวลาดังกล่าวเพียงแค่ 29 ล้านดอลลาร์ฯ นับเป็นอัตราที่ลดลงถึง 99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำตัวเลขได้ถึง 2,100 ล้านดอลลาร์
‘บ็อบ ชาเพค’ ซีอีโอ ‘ดิสนีย์’ ประกาศตัวเลขธุรกิจสตรีมมิ่งของ ‘ดิสนีย์’ Hulu, Hotstar และ ESPN+ มีสมาชิกที่จ่ายเงินเพื่อรับชมรายการแล้วถึง 146 ล้านราย
ขณะที่ Disney+ มียอดสมาชิกพุ่งถึง 94.9 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากรายงานตัวเลข ณ เดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่มีสมาชิก 86.6 ล้านราย ESPN+ สมาชิก 12.1 ล้านราย Hulu 39.4 ล้านราย และ Hulu + Live TV 4 ล้านราย
จากข่าวนี้ทำให้หุ้น ‘ดิสนีย์’ พุ่งถึง 3%
ผลประกอบการของ ‘ดิสนีย์’ ให้ภาพชัดเจนว่า Disney + มีความสำคัญและเป็นธุรกิจสตริมมิ่งที่ทำผลกำไรเข้ามา ท่ามกลางรายได้และกำไรนของบริษัทที่ลดลง
โดย ‘ดิสนีย์’ เป็นบริษัทสื่อดั้งเดิมที่อยู่ในฮอลลีวูดตั้งแต่ปีพ.ศ. 2466 ที่มองการขยายธุรกิจที่กำลังเริ่มค้นคล้ายกับบริษัทไฮเทค
ซึ่งการลงทุนในสตรีมมิงจะไม่มีชะลอตัวลงในเร็ว ๆ นี้ บริษัทโชว์คอนเทนท์ใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นและแฟน ๆ ในเดือนธันวาคม รวมถึงภาพยนตร์และซีรีส์ใหม่หลายเรื่องเช่น Star Wars และ Marvel
และเมื่อพูดถึง Marvel หนึ่งในคำถามที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายของ Disney คือจะทำอย่างไรกับ “Black Widow” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดใน Marvel Cinematic Universe ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้
เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดยังคงดำเนินอยู่ทั่วประเทศ “เรายังคงตั้งใจที่จะเปิดตัวในภาพยนตร์” ชาเพค กล่าวแต่ได่บอกชัดเจนว่า จะพิจารณาอย่าง “ระมัดระวัง” เพื่อดูว่าทุกอย่างเป็นอย่างไรในแง่ของการเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้งและ “ความรู้สึกของผู้บริโภคในแง่ของความต้องการที่จะกลับไปดูโรงภาพยนตร์”
สำหรับทิศทางของธุรกิจสตริมมิ่งของ ‘Dismey+’ ในอนาคตบริษัทคาดว่าจะทำยอดสมาชิกเพิ่มเป็น 230-260 ล้านคนในปี 2024 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากปี 2019 โดยสมาชิกในเครือทั้งหมดจะเพิ่มเป็น 300-350 ล้านราย
ขณะที่ Netflix ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสตรีมมิ่งและเป็นผู้นำ ยังคงก้าวอย่างต่อเนื่องสำหรับสตรีมเมอร์ทุกคนโดยมีสมาชิกทั่วโลก 203.7 ล้านราย ณ สิ้นปี 2020
สำหรับตลาดเมืองไทย Disney+ ได้เตรียมความพร้อมที่จะเปิดบริการในเร็วๆ นี้หลังจากมีข่าวและค่าบริการหลุดออกมาก่อนหน้านี้
ที่มา- https://edition.cnn.com/2021/02/11/media/disney-earnings-q1-2021/index.html