ศาลพิพากษาจำคุก ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์-พิธา-ณัฏฐา-พริษฐ์-ธนวัฒน์-ไพรัฏฐโชติก์ แฟลชม็อบคนละ 4 เดือน ให้รอลงอาญา 2 ปี ค่าปรับคนละ 20,200 บาท
- ฐานร่วมกัน เป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากพระราชวัง
- และฐานร่วมกันโฆษณาหรือแสดงความคิดเห็นแก่ประชาชน
- โดยใช้ เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2567) ศาลแขวงปทุมวัน อ่านคําพิพากษาคดีอาญา 3 คดี รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน ตามที่ พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวณัฏฐาหรือโบว์ มหัทธนา,นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์, นายธนวัฒน์ วงค์ไชย, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, นางสาวพรรณิการ์ วานิช,นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร
จําเลยทั้ง 8 ราย ร่วมกันนําข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทางเฟซบุ๊ก (Facebook) และทวิตเตอร์ (Twitter) บัญชีของจําเลยแต่ละคน ซึ่งเป็นการสื่อสารทาง อินเตอร์เน็ต ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ มีข้อความเชิญชวนให้เข้าร่วมการชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์ค แยก ปทุมวัน(แฟลชม็อบ) ในวันที่ 14 ธันวาคม 2562 เวลา 17.00น. และร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุม สาธารณะ ไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
การจัดการชุมนุมดังกล่าวเป็นการ กีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการใช้บริการสถานีรถไฟฟ้า หรือสถานีขนส่งสาธารณะ และบางคน ได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบริหารประเทศของรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในรัศมี 150 เมตร จากพระราชวังสระปทุม อันเป็นพระราชวังที่ประทับหรือพํานักของพระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป ซึ่งจะกระทํามิได้ตามกฎหมาย
และจําเลยทั้ง 8 คน ซึ่งเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะไม่ดูแลรับผิดชอบการชุมนุมไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะตลอดจนดูแลรับผิดชอบให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามหน้าที่ผู้ชุมนุม และก่อให้เกิดความไม่สะดวก แก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุมหรือทําให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
ศาลจึงมีคำพิพากษาจึงให้ลงโทษฐานร่วมกัน เป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากพระราชวัง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จําคุกคนละ 4 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท โดยโทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกําหนด 2ปี และจําเลยทั้ง 8 ราย มีความผิดทางพินัยตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558,พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ปรับเป็นพินัยคนละ 10,000 บาท ฐานร่วมกันโฆษณาหรือแสดงความคิดเห็นแก่ประชาชนโดยใช้ เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับเป็นพินัยคนละ 200 บาท รวมค่าปรับเป็นพินัย คนละ 10,200 บาท
ด้านนายพิธา กล่าวว่า จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป และไปพิจารณาว่าใช้มาตรฐานในการวัดต่างกันอย่างไร เพราะตอนจัดชุมนุมได้วัดระยะทางแล้วเกิน 150 เมตรจากเขตพระราชวังแน่นอน
