เยอรมันซัดจีนอุดหนุน BYD 3700 ล้านดอลลาร์เพื่อครองตลาดรถ EV โลก

BYD Seal U

ผลการศึกษาจากเยอรมันระบุว่า รัฐบาลจีนได้ทุ่มประมาณมหาศาลเพื่ออุดหนุนอุตสาหกรรมรถไฟฟ้ากับเป้าหมายการเป็นผู้นำโลกในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าและเทคโนโลยีสะอาด ตามการศึกษาใหม่ครั้งแรกที่รายงานโดยBloomberg โดยบริษัท BYD ได้รับเงินอุดหนุน “อย่างต่ำ” 3.7 พันล้านดอลลาร์

สถาบันคีลเพื่อเศรษฐกิจโลกของเยอรมนีรายงานว่า BYD ได้รับเงิน 220 ล้านยูโรในปี 2563 และเพิ่มเป็น 2,100 ล้านยูโรในอีกสองปีต่อมา ในแง่ของรายได้จากธุรกิจ เงินอุดหนุนโดยตรงเพิ่มขึ้นจาก 1.1% ในปี 2563 เป็น 3.5% ในปี 2565 

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าา BYD ได้รับ purchase premiums  ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับผู้ผลิตในประเทศรายอื่น เช่น GAC หรือบริษัทต่างประเทศที่ผลิตในจีนเช่นบริษัทร่วมทุนของ Tesla หรือ Volkswagen 

แน่นอนว่าทำให้ผู้ผลิตฝั่งยุโรปไม่พอใจสิ่งที่เกิดขึ้น และแม้ว่าการร้องเรียนเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พวกเขาได้เข้าสู่มิติใหม่ เนื่องจากบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องของจีนได้กลายเป็นคู่แข่งที่ดุเดือดทั่วโลก

ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2023 สหภาพยุโรปได้เริ่มการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เนื่องจากบริษัทในยุโรปกำลังดิ้นรนที่จะแข่งขันกับการนำเข้าสินค้าไฮเทคราคาถูกจากจีน ซึ่งผลิตโดยแรงงานราคาถูก เข้าสู่สหภาพยุโรป

คณะกรรมาธิการยุโรปเข้าเยี่ยมชม BYD, Geely และ SAIC เพื่อรวบรวมข้อมูลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนสิ่งที่ระบุว่าเป็นทั้งเงินอุดหนุนและการรณรงค์ให้กู้ยืมธนาคารจากรัฐบาลปักกิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตที่เกินขนาดในจีน ด้วยความเกรงว่าจีนกำลังสร้างโรงงาน EV ไปไกลกว่าระดับที่จำเป็นสำหรับความต้องการในประเทศ หลังจากการสอบสวนหลายเดือน  ทาง คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าขณะนี้กำลังพิจารณาที่จะเรียกเก็บภาษีย้อนหลังสำหรับ EV ของจีนเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปอยู่ในเกมที่แข่งขันได้

ข้อมูลของสถาบันคีล รัฐบาลจีนได้จ่ายเงินโดยตรงให้กับบริษัทจดทะเบียนเกือบทั้งหมด รวมถึงพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ แลบริษัทรถไฟ ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินของประเทศในสหภาพยุโรปและ ประเทศกลุ่ม OECD ขนาดใหญ่ เช่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ถึง 9 เท่า

ขณะเดียวกันทางสหรัฐฯ และยุโรปได้เข้มงวดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์จีนและชิ้นส่วน EV ที่จำหน่ายในประเทศของตน โดยมีเก็บภาษีที่สูงมากในสหรัฐฯ จนจีนได้หันความสนใจไปที่พื้นที่อื่นๆ เช่น อเมริกาใต้, เอเชีย และยุโรป 

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังได้จัดตั้งกองทุนนวัตกรรมมูลค่า 40,000 ล้านยูโรเพื่อแข่งขันกับจีนและกฎหมายลดเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา

ในส่วนของจีนได้ประกาศให้การสอบสวนเงินอุดหนุนของสหภาพยุโรปเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าของยุโรป โดยกล่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์ของตนได้รับชัยชนะเพราะพวกเขาผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น แน่นอนว่า แม้แต่ผู้เขียนรายงานการศึกษายังกล่าวว่าการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้อย่างรวดเร็วในยุโรปโดยเฉพาะนั้นเนื่องมาจากสินค้าราคาถูกที่มาจากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่

“นโยบายการอุดหนุนของจีนเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมานานหลายปี อุตสาหกรรมในยุโรปมักจะดิ้นรนเพื่อแข่งขันกับคู่ค้าของจีนในด้านราคา” เดิร์ก โดห์เซ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสถาบัน คีล และผู้เขียนร่วมของการศึกษากล่าว “อย่างไรก็ตาม หากไม่มีเทคโนโลยีที่ได้รับการอุดหนุนจากจีน ผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีนี้ของเยอรมนีก็จะมีราคาแพงและหายากมากขึ้นเช่นกัน”

BYD รายงานรายได้สุทธิ 4.16 พันล้านดอลลาร์เทียบกับที่ประมาณไว้ 4.29 พันล้านดอลลาร์ ทำให้มีช่องว่างที่สำคัญเพื่อเล่นสงครามราคาด้วยการกำหนดราคาที่ต่ำมาก โดยบริษัทรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% ในปีที่แล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง

https://electrek.co/2024/04/12/china-gave-byd-an-incredible-3-7-billion-to-win-the-ev-race/