“ภาคเอกชนท่องเที่ยว” เสนอรัฐบาลเร่งโครงการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเชียงใหม่ ช้างคลาน – ไนซ์บาซา หลังน้ำท่วมครั้งก่อนเสียหาย 300 ล้าน ชงทำโครงการพนังกั้นน้ำปิง 10 กม. พร้อมเร่งโครงการอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง ขอแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ข้ามแดน
นางสาววารุณี คำเมรุ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่จะประชุมร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อเสนอโครงการที่สำคัญในการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ โดยในส่วนของภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวจะเสนอโครงการที่จำเป็นในการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่เชียงใหม่ 2 โครงการได้แก่
โครงการพนังกั้นแม่น้ำปิง
1.โครงการพนังกั้นแม่น้ำปิงความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนช้างคลาน – ไนซ์บาซา ซึ่งในปีนี้ถูกน้ำท่วมทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 300 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีการทดลองทำแล้วในพื้นที่ ต.หนองหอย อ.เมืองจ.เชียงใหม่ ซึ่งครั้งที่ผ่านมาสามารถป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวได้ และสามารถพัฒนาแนวพนังกั้นแม่น้ำเป็นทางเดิน (walk way) ริมแม่น้ำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวได้
เร่งรัดโครงการอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด–แม่กวง
2.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดโครงการอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยผันน้ำจากแม่แตง /แม่ริมที่จะเข้ามาสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังเขื่อนแม่งัดได้ ซึ่งจะช่วยให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ ซึ่งโครงการนี้ภาคเอกชนเชียงใหม่ได้ติดตามความคืบหน้ามาเป็นระยะๆซึ่งหากโครงการนี้สามารถเร่งการก่อสร้างได้เร็วขึ้น ก็จะช่วยป้องกันน้ำท่วมจ.เชียงใหม่ได้ด้วย
นอกจากนี้ในแผนการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในกรณีที่เกิดน้ำท่วมก็จะเสนอให้รัฐบาลมีการมอบหมายหน่วยทหารที่เป็นหน่วยงานเฉพาะให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือหากกรณีเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้นอีกในอนาคต สำหรับการแก้ปัญหาหมอกควันที่กระทบกับภาคท่องเที่ยว ถือเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของจังหวัดท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนืออย่างจ.เชียงใหม่เพราะทำให้ช่วงเวลาช่วงไฮต์ซีซั่นของเชียงใหม่ลดลง จากปีละ 8 เดือนเหลือเพียงปีละ 4 เดือน ซึ่งในช่วงพ.ย. ถึง ก.พ.ของแต่ละปีจะมีปัญหาเรื่องหมอกควันที่กระทบกับภาคท่องเที่ยว โดยมี 4 แผนที่จะดำเนินการ
โดยในส่วนที่จะขอให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาคือเรื่องของหมอกควันข้ามพรมแดนที่จะต้องไปหารือกับประเทศใกล้เคียงในการแก้ปัญหาร่วมกัน รวมทั้งขอให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนงบประมาณในการทำฝนเทียมเพิ่มขึ้น สำหรับมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งซึ่งมีการอนุมัติโครงการนี้ 10,000 สิทธิ์ซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์เรื่องฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือมากนัก จึงอยากเสนอให้รัฐบาลฟื้นโครงการเที่ยวคนละครึ่ง ซึ่งโครงการนี้จะมาช่วยเติมจำนวนนักท่องเที่ยวให้กับเชียงใหม่ในช่วงโลว์ซีซั่น เพื่อให้สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
วันนี้ (29 พ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม.เปิดเผยว่าสำหรับโครงการที่จะมีการเสนอเข้า ครม.สัญจรในครั้งนี้จะมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับในพื้นที่ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย 3,000 ล้านบาท และโครงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษและหมอกควัน
โครงการแจกเงินผู้สูงอายุยังไม่มีการพิจารณาในครม.รอบนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่าสำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่จะใช้งบประมาณจำนวนมาก ที่เดิมคาดการณ์ว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาในครม.ครั้งนี้ได้แก่ โครงการ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยใช้เงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินหมื่นเฟส 2 และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 67/68 ไร่ละ1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ยังไม่ทันที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในครั้งนี้เนื่องจากจะต้องมีขั้นตอนในการขอความเห็นจากหน่วยงานราชการ และกระทรวงที่เกี่ยวข้องซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องเซ็นชื่อประกอบความเห็นก่อนที่จะนำเสนอ ครม.คาดว่าจะเข้าสู่การประชุม ครม.ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : จ.เชียงใหม่ เตรียมมอบเสื้อผ้าฝ้ายทอมือปักลาย “ลายสิริวชิราภรณ์” และ “ลายดอกรักราชกัญญา” ให้นายกฯ และ ครม.ใส่ประชุม ครม.สัญจรพรุ่งนี้