

หอการค้า นำทัพรัฐและเอกชน 5 พันธมิตร “กระทรวงมหาดไทย-ททท.-TCEB-เซ็นทรัลกรุ๊ป” นำร่องเปิดตัว “แพลตฟอร์ม-แอป CERO” กระตุกภาคธุรกิจ องค์กรรัฐ ภาคประชาชน ตื่นตัวนำพาประเทศไทยลดโลกเดือด เข้าร่วม“ซื้อขายคาร์บอนเครดิต” เต็มรูปแบบ เริ่ม 7 ส.ค.67

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรขนาดใหญ่ภาครัฐและเอกชนแถวหน้าของประเทศรวมตัวกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต หรือ Carbon Neutrality 4 ALL นำโดย 5 หน่วยงาน ได้แก่ หอการค้าไทย กระทรวงมหาดไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/สสปน.” และกลุ่มเซ็นทรัล โดยการลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต “CCXT : Carbon Credit Exchange of Thailand” และแอปพลิเคชั่น CERO พร้อมเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนเป็นสมาชิก สามารถซื้อขาย หรือชดเชยคาร์บอนเครดิตได้ตั้งแต่วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป โดยเชิญชวนผู้ที่สนใจ ผู้ประกอบการ จากภาคส่วนต่าง ๆ และบุคคลทั่วไป ลงทะเบียนเข้าใช้ได้ดังนี้แอปพลิเคชั่น CERO
โครงการนี้ทั้ง 5 พันธมิตร จะดำเนินการร่วมกัน 5 ปี และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความร่วมมือกันผลักดันให้เกิดเป็น “สังคมคาร์บอนต่ำ” นำพาประเทศไทยบรรลุตามเป้าหมาย net zero ต่อไปในอนาคต

ตามเป้าหมายการลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้เพื่อผนึกกำลังกันขับเคลื่อนประเทศไทยเร่งเดินหน้าเป้าหมายการลดโลกร้อนทำคาร์บอนเป็นศูนย์หรือ Net Zero ควบคู่กับส่งเสริมให้ภาครัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไป หันมาใช้แพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต “CCXT : Carbon Credit Exchange of Thailand” เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันการซื้อขายคาร์บอนเครดิต หรือการชดเชยคาร์บอนเครดิตจากกิจกรรมต่าง ๆ ยังอยู่ในวงจำกัดเฉพาะธุรกิจรายใหญ่ กับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น
ดังนั้นการเปิดแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้หน่วยงาน หรือ ผู้ประกอบการรายย่อย และบุคคลทั่วไป ได้มีโอกาสเข้าถึงการชดเชยคาร์บอนเครดิตจากกิจกรรมต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์ม และแอพลิเคชั่น ที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ ภาคการค้าและการลงทุน , ภาคการเกษตรและอาหาร , การท่องเที่ยวและบริการ และอุตสาหกรรมไมซ์
สำหรับเฟสแรก เริ่มต้นจากการชดเชยคาร์บอนเครดิตจากมาตรฐาน TVER ของประเทศไทย ใช้ในกลุ่มท่องเที่ยว การจัดงานอีเว้นท์ อุตสาหกรรมไมซ์ และภาคบริการต่างๆ ผ่าน CERO ซึ่งเป็นแอพลิเคชั่นแรกบนแพลตฟอร์มนี้ โดยมีกระทรวงมหาดไทยนำคาร์บอนเครดิตชุมชน จาก “โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน” เข้าสู่แพลตฟอร์มดังกล่าว
ทาง “ฝั่งผู้ซื้อคาร์บอนเครดิต” จะประชาสัมพันธ์โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและเครือข่าย เชิญชวนสมาชิกที่มีมาเข้าร่วมแพลตฟอร์มด้วยกว่า 140,000 ราย เพื่อสร้างแบบอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจภาคการค้ายุคใหม่
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า ทีเส็บร่วมส่งเสริมให้เครือข่ายการท่องเที่ยว โรงแรม ศูนย์การจัดประชุมสัมมนา งานแสดงสินค้า เข้ามาใช้แพลตฟอร์ม ร่วมกับทาง ททท.ประชาสัมพันธ์ให้เครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร่วมคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในแพลตฟอร์ม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งขยายผลนำข้อมูลดังกล่าวมาเชื่อมต่อกับแอพลิเคชั่นภายใต้โครงการ ขณะที่ “กลุ่มเซ็นทรัล” หนึ่งในผู้พัฒนาแพลตฟอร์มจะดูแลการบริหารจัดการระบบแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ง่ายและสะดวกพร้อมกับทำประชาสัมพันธ์ผ่านไปถึงคู่ค้า และเครือข่ายในกลุ่มเซ็นทรัล
โครงการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่น CERO โครงสร้างหลัก ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่
- ส่วนที่ 1 เจ้าของคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรอง TVER จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก โดยเจ้าของคาร์บอนเครดิตสามารถสมัครสมาชิกเข้าใช้แพลตฟอร์มและใช้เป็นช่องทางการขายได้
- ส่วนที่ 2 แพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิต CCXT ทำหน้าที่เป็นผู้รับคาร์บอนเครดิตจากเจ้าของ มาลงขายในแพลตฟอร์ม ในหน่วยตันคาร์บอนไดออกไซด์
- ส่วนที่ 3 แอปพลิเคชั่น หรือ Digital Channel เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม CCXT เพื่อรับคาร์บอนเครดิตมาชดเชยกิจกรรม โดยมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การชดเชยคาร์บอนเครดิตในการจัดอีเว้นท์ หรือการชดเชยการเข้าพักในโรงแรม โดยใช้หน่วยกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ฯ
- ส่วนที่ 4 หน่วยงานรับรองคาร์บอนเครดิต ทำหน้าที่รับรองว่าคาร์บอนเครดิตที่ได้ร่วมบริจาค หรือ ชดเชยเป็นคาร์บอนเครดิตที่อยู่ในระบบทะเบียนของ TVER จริง เพื่อให้ผู้ชดเชยมั่นใจได้ถึงการชดเชยแล้วตามระเบียบขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
- ส่วนที่ 5 ผู้ซื้อคาร์บอนเครดิต ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ในภาคการค้า การบริการ การท่องเที่ยวและไมซ์ และภาคการเกษตร
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : TCEB-3 องค์กร เปิดวันสต็อป Thailand MICE สนามบินปี67