ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร ชินวัตร ใกล้สะเด็ดน้ำ ไทม์ไลน์ที่วางไว้ควรเรียบร้อยไม่เกินศุกร์นี้ (30 ส.ค.) เพราะยังมีวาระสำคัญคอยให้ “ครม.อิ๊งค์1” เข้าไปเซ็นต์อนุมัติ
เมื่อจัดทำรายชื่อครม.ชุดใหม่เสร็จแล้ว ยังจะต้องทูลเกล้าฯ เพื่อรอการโปรดเกล้าฯ จากนั้น “แพทองธาร” จะต้องนำครม.ใหม่ถวายสัตย์ จึงจะเริ่มเข้าทำเนียบรัฐบาลทำงานได้อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม หน้าตาของครม. “หญิงอิ๊งค์” เที่ยวนี้จะต้องดีกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ทั้งในแง่บุคคลที่ต้องมีจริยธรรม และความสดใหม่ของคนรุ่นใหม่ เพราะสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านเคยดูแคลนไว้ว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่เท่าที่ดูตอนนี้ “ส่วนใหญ่” ยังคงใช้บริการรัฐมนตรีหน้าเดิมในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถมยังมีรัฐมนตรีสายล่อฟ้า ที่มีประวัติด่างพร้อยส่อขัดจริยธรรมหลายคน ประกอบด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, อนุทิน ชาญวีรกูล, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์, สุชาติ ชมกลิ่น, สมศักดิ์ เทพสุทิน, เฉลิมชัย ศรีอ่อน, เดชอิศม์ ขาวทอง, ชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นต้น
เรียกว่าวนเวียนอยู่แบบนี้เหมือนเดิม มิหนำซ้ำต่อว่าเขาไว้อย่างไร วันนี้กลืนน้ำลายตัวเอง เป็นเองทุกประการ เกลียดลุงพลังประชารัฐก็สมสู่กับลุงเรียบร้อย แต่ที่ทำอกลุงจะแตก คือการหลอกให้โหวตนายกฯ แล้วผลักส่งลุงไปเป็นฝ่ายค้าน!
เช่นนี้จะเป็นการเมืองยุคใหม่หอมกลิ่นความเจริญอย่างไร?
ในเมื่อรัฐบาลชุดนี้ยังดำเนินการตามคำสั่ง “พ่อนายกฯ” ที่มีแรงแค้นเรื่องในอดีต เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ กลับมากลายเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีทุจริต ก็ถึงเวลาเก็บกวาด เก็บขยะโยนทิ้ง ไม่ให้ขวางทางเดิน
ปิดสวิตช์ 4ป. 1พ.
เปิดฉากโยน “พรรคพลังประชารัฐ” ในส่วนของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจากรัฐบาล และเก็บ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ไว้เดินงานต่อ “ทักษิณ ชินวัตร” รู้จักพูดประกาศบนเวทีของสื่อบางนา ว่า แน่นอนเราต้องเลือกคนที่ทุ่มเทมากกว่า
แต่ “ความทักษิณ” ยังไม่หมดเท่านั้นแม้ “ร.อ.ธรรมนัส” เป็นหอกข้างแคร่ทิ่มลุงป้อม ประกาศเอกภาพแยกสส.พลังประชารัฐได้ ถือว่าทำงานสำเร็จ แต่เมื่อ “แพทองธาร”-ลูกสาว ขอไม่เอา ร.อ.ธรรมนัสร่วมวงครม. ก็ต้องยอม เพราะภาพลักษณ์ ร.อ.ธรรมนัส เทาเกินทน
เมื่อตัดขั้วลุงแล้ว แผนต่อไปก็บดขยี้ “พรรคประชาธิปัตย์” พรรคคู่แค้น 20กว่าปี ด้วยการดึงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเสียเลย หลายคนบอกว่านี่คือการปิดสวิตช์ 3ป. เหมือนที่เคยหาเสียงไว้ และอีก 1 ป. คือ “ประชาธิปัตย์” ว่ากันว่าการเลือกตั้งรอบหน้าเป็นพรรคต่ำสิบ
ทว่า การดึง “ประชาธิปัตย์” เข้าร่วม เกิดกระแสตอบกลับไปยังพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง เพราะจู่ๆก็จูบปากกันเฉย ส่วนเรื่องราวในอดีต ที่พาประชาชนออกไปชุมนุมเผชิญหน้า ใช้ชีวิตแลกชีวิตต่อสู้เพื่อ “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย
วันนี้ “พรรคเพื่อไทย” บอกว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง”
ส่วน “ประชาธิปัตย์” ซีกที่ไม่เคยออกไปต่อสู้ทางอุดมการณ์ บอกว่า “วันนี้ประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง เรามีแต่ความรักความเข้าใจ และการให้อภัยกัน”
อดีตตามหลอกหลอน เพื่อไทย–ประชาธิปัตย์
เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้ประชาชนเกิดหลากหลายทัศนะ กลุ่มหนึ่งต้องการ MOVE ON จริง พร้อมอภัยกับอดีตที่ 2 พรรคนี้ก่อกรรมไว้กับชีวิตประชาชนและบ้านเมือง
ส่วนอีกกลุ่มมองว่าโดยหลอกให้ออกไปชุมนุม โดนหลอกให้ปกป้อง เหมือนโดนหักหลังจากทั้ง 2 พรรค ฉะนั้น ก็ควรถึงที่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องโดนปิดสวิตซ์ไปด้วย โทษฐานไม่มีความซื่อสัตย์ต่อประชาชน ขณะที่พรรคเพื่อไทยหวังว่า “การสร้างผลงาน” ให้เป็นที่ประทับใจ จะทำให้ประชาชนยกโทษให้ และเลือกใช้บริการพรรคเพื่อไทยต่อไป
โดยเฉพาะคนเสื้อแดง อย่างเช่น “ธิดา ถาวรเศรษฐ” อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงรัฐบาลกลายพันธุ์แบบ Full Version ไว้อย่างเจ็บปวด
“ส่วนคนเสื้อแดงคิดว่าแม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มาร่วมรัฐบาล ก็คงไม่เอาพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ตั้งแต่เอา 2 ลุงมาสืบทอดอำนาจ ทั้งที่ทั้ง 2 ลุงมีส่วนสำคัญในการเข่นฆ่าประชาชน และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเมือง แต่ก็กลายมาเป็นพวกเดียวกัน และกลายเป็นเครื่องมือของอำมาตย์ แต่ดิฉันก็เข้าใจได้ว่าเขาไม่ใช่พรรคที่ต่อสู้ในการพัฒนาการเมือง แต่เป็นพรรคที่ต้องการเป็นรัฐบาลเท่านั้น จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ 10 ล้านเสียง ก็ถือว่ามากไปด้วยซ้ำ มาตอนนี้ยังจะเอาพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมอีก รอบหน้าเชื่อว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยจะลดลงอีก เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาชนยังมองว่าเขาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้กับนักต่อสู้ว่าจะเอาตัวเองไปวางไว้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้ พรรคเพื่อไทยต้องไม่ลืมว่าทางเดินทุกวันนี้ไม่ใช่อยู่ๆ มีถนนให้เขาเดิน แต่เป็นทางเดินที่ผ่านซากศพประชาชนสร้างถนนให้เขาเดิน” นางธิดา กล่าว
ฉะนั้น การเลือกตั้งรอบหน้าถือเป็นการวัดใจฐานเสียงของทั้งสองพรรค ว่าจะยังคงให้การสนับสนุนมากน้อยเพียงใด หรือจะเจ็บแล้วจำ หนีไปโหวตเลือก “พรรคประชาชน” ที่มีทุนเดิมของตัวเองอยุ่แล้ว และจะได้มือเพิ่มของคนผิดหวังจากพฤติกรรมของพรรคใหญ่ทั้ง 2 พรรคเสริมกำลังเข้าไปอีก เนื่องจากการเซ็ตทีม ครม.แพทองธาร1 ขัดใจฐานเสียง!
เรื่องโดย เอสเปรสโซ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เหลียวหลังแลหน้า จาก “ทักษิณ” สู่ “แพทองธาร”