ครม. เห็นชอบเดินหน้า “หวยเกษียณ” ทุกศุกร์ ได้ลุ้นหวย 1 ล้านบาท 5 รางวัล

หวยเกษียณ
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบเดินหน้า “หวยเกษียณ” ทุกศุกร์ได้ลุ้นหวย 1 ล้านบาท 5 รางวัล


ครม.เห็นชอบเดินหน้า “หวยเกษียณ” ได้ทั้งออมเงิน ได้ลุ้นหวย 1 ล้านบาท 5 รางวัลรวม 5 ล้านบาท ทุก 5 โมงเย็นวันศุกร์ แต่ต้องแก้กฏหมายกองทุนการออมแห่งชาติให้เสร็จก่อน คาดเริ่มได้ต้นปี 2568 วาดฝันเกิดการออมปีละ 13,000 ล้านบาท คนมีสิทธิ์ต้องเป็นสมาชิก กอช. แรงงานนอกระบบ และผู้ประกันตนมาตรา 40 อายุ 15-60 ปี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ หวยเกษียณ ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้แรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนเกิดการออมและมีเงินออมในยามเกษียณ ตามแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

ต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ .. 2554

ทั้งนี้จะต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินโครงการสลากสะสมทรัพย์ และต้องนำมาผ่านการพิจารณาของ ครม.ตลอดจนรัฐสภาก่อน จึงคาดว่าเร็วที่สุดโครงการหวยเกษียณจะดำเนินการได้ในต้นปี 2568 นายกฯได้สั่งการว่าได้เสียงตอบรับที่ดี ประชาชนรออยู่ก็จะเร่งให้เร็วที่สุด

สลากที่จะขายราคาใบละ 50 บาท

“สลากหวยเกษียณ ที่จะขายราคาใบละ 50 บาท ให้ซื้อได้เดือนละไม่เกิน 3,000 บาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ แบ่งออกเป็นสองรางวัล คือ รางวัลที่หนึ่ง 1 ล้านบาท มี 5 รางวัล และรางวัลที่สอง 1,000 บาท มีจำนวน 10,000 รางวัล ถ้าคนถูกไม่ครบก็จะทบไปงวดถัดไป เงินที่เป็นเงินซื้อสลากทั้งหมดจะถูกเก็บไว้เป็นเงินออมในบัญชี กอช.ของบุคคลนั้นๆ หมายความว่าทุกบาททุกสตางค์จะไม่หายไปไหน ทุกบาทถูกเก็บไว้เป็นเงินออมและได้ลุ้นรางวัลทุกวันศุกร์ตอน 5 โมงเย็น จากนั้นเงินที่เก็บในบัญชี กอช.จะสามารถลงทุนในกิจการและกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งผลตอบแทนจะไม่สูงมาก ในโครงการนี้ประชาชนจะได้ 3 เด้ง คือ ลุ้นเงินล้านทุกสัปดาห์ เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่หายถูกเก็บไว้เป็นเงินออม และได้ผลตอบแทนจากการลงทุน”

ช่วงแรก ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเป็น 3 กลุ่ม

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ในช่วงแรก ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเป็น 3 กลุ่ม คือ ต้องเป็นสมาชิก กอช.อยู่แล้ว เป็นแรงงานนอกระบบ และผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 สมาชิกตามพระราชบัญญติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบที่มีอายุ 15- 60 ปีบริบูรณ์

สำหรับการเล่นเนื่องจากเป็นสลากดิจิทัล เวลาซื้อ 50 บาทในแอปพลิเคชั่นของ กอช.จะได้รับสลากออกมา 1 ใบจะมีวงกลม 10 วง ถูกปิดด้วยแถบสีเงินก็ขูดด้วยระบบดิจิทัล ทุกวันศุกร์ตอน 5 โมงเย็นก็จะมีประกาศรางวัลออกมา ถ้าถูกรางวัลที่หนึ่ง 1 ล้านบาท เงินก็จะถูกโอนให้ทันทีและเงินที่ซื้อสลากก็จะถูกเก็บเป็นเงินออม เท่ากับท่านได้ลุ้นและไม่มีเสียเงินต้น

รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเป็นรางวัล 700-800 ล้านบาทต่อปี

รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเป็นเงินรางวัล 1งวดใช้ 15 ล้านบาท ใน 1 เดือนใช้ 60 ล้านบาทและใน 1 ปี ใช้ 700-800 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะตั้งงบประมาณให้ ถือ เป็นเงินที่ค่อนข้างต่ำถ้าเปรียบเทียบกับเบี้ยคนชราที่ดูแลคนสูงวัย และถือว่ารัฐใช้เงินไม่มากสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนออมเงิน ส่วนเฟส 2 และเฟส 3 จะรีบพิจารณาโดยเร็วและขอให้เริ่มเฟส 1 ก่อน

เป้าหมายให้มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 ปี

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป้าหมายโครงการวางไว้ให้มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 ปี มีรูปแบบการดำเนินโครงการที่สำคัญ คือ

1. ออกสลากเริ่มต้นประมาณ 5 ล้านใบต่องวด (ต่อสัปดาห์) หรือ 260 ล้านใบต่อปี โดยกำหนดออกรางวัลทุกวันศุกร์ (รวม 52 งวดต่อปี) ในราคาขายใบละ 50 บาท คิดเป็นเงิน 250 ล้านบาทต่องวด หรือ 13,000 ล้านบาทต่อปี

2. กำหนดรูปแบบสลากเป็นสลากดิจิทัล (สลากขูดดิจิทัล) โดยผู้ซื้อลงทะเบียนการซื้อและซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในลักษณะแอปพลิเคชันที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ จำกัดการซื้อสลากต่อคนได้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน หรือคนละไม่เกิน 60 ใบต่องวด

3. จำนวนเงินที่ซื้อสลากจะถูกเก็บเป็นเงินสะสมเฉพาะบุคคล โดยจะได้รับเงินที่ซื้อสลากคืนทั้งหมดในรูปแบบเงินบำเหน็จเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่สมทบเงินให้กับผุ้ซื้อสลากและไม่รับประกันผลตอบแทนจากการซื้อสลาก

4. เมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ กอช. จะจ่ายเงินบำเหน็จผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือจ่ายเงินบำเหน็จให้กับผู้รับผลประโยชน์ผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน กรณีสมาชิก เสียชีวิต ทั้งนี้ ในปีแรกใช้งบประมาณ 830 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินรางวัล 780 ล้านบาทต่อปีที่รัฐบาลจะตั้งงบให้ใหม่ ซึ่งคิดเป็น 6 % ของเงินซื้อสลากที่สะสมเข้ากองทุนประมาณปีละ 13,000 ล้านบาท

ส่วนการพัฒนาระบบเทคโนโลยี แอปพลิเคชัน ระบบ Clearing และระบบงานที่เกี่ยวข้อง 20 ล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐาน 30 ล้านบาท จะใช้งบประมาณของ กอช.เอง “ขอยกตัวอย่างการออมเงินในโครงการนี้ สมมติ อายุ 50 ปี ซื้อทุกเดือนเป็นเงิน 3,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี จนอายุ 60 ปี จะออมเงินได้ 360,000 บาท ถ้าเริ่มอายุ 30 ปี ซื้อทุกเดือนๆละ 3,000 บาท จนถึงอายุ 60 ปี จะออมเงินได้ 1.08 ล้านบาท ถ้าอายุ 15 ปี ซื้อทุกเดือนๆละ 3,000 บาทจนอายุ 60 ปี จะออมเงินได้ 1.62 ล้านบาท เงินออมนี้ยังไม่รวมที่ได้ลุ้นเงินล้านทุกสัปดาห์ด้วย”

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หวยเกษียณ : จ่อชงเข้า ครม. สัปดาห์หน้า