แสนสิริ วางเป้าขายคอนโดผ่าน e-Commerce โกย 800 ล้านบาท

แสนสิริ วางเป้ายอดขายคอนโดผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce โกย 800 ล้านบาท พร้อมชวนครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์ สร้างรายได้

  • โชว์ 5 ปีที่ผ่านมาได้กว่า 3,500 ล้านบาท
  • ส่งโมเดล Sansiri Affiliate Program
  • ชวนครีเอเตอร์จุดประกายความสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัด

นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผนว่า ปีนี้แสนสิริ พร้อมเดินหน้ารุกกลยุทธ์ Sansiri e-Commerce อย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นช่องทางการทำตลาดที่มีประสิทธิภาพและมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเป็นการต่อยอดจากแพลตฟอร์ม 24 Online Booking, LINE Official Account และการผนึกกำลังกับผู้นำแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนำในตลาด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมของแสนสิริได้จากหลากหลายช่องทาง ในราคาที่คุ้มค่า สะท้อนจากความสำเร็จของปีที่ผ่านมา ที่สามารถ Sold Out ดีคอนโด ซายน์ รังสิต ในทุกยูนิตที่เปิดขายแบบ Online Booking ได้ภายใน 1 วัน ทำให้ในภาพรวมในปีที่ผ่านมาเรามียอดผู้สนใจและเข้าชมคอนโดบนแพลตฟอร์ม Online Booking เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และสร้างยอดขายคอนโดผ่าน LINE Official Account เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า 

“แสนสิริ เป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่ทำการตลาดบนออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ตลอดจนให้ความสำคัญกับทุกประสบการณ์ของลูกค้าตลอด Journey เล็งเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป จากการเข้ามาของเทคโนโลยี ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่คุ้นชินกับการใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้น และจากดีเอ็นเอ Speed to Market ทำให้ เรามองตลาดเร็ว รุกไว สร้าง 24 Online Booking แพลตฟอร์ม e-Commerce เพื่อเพิ่มยอดจองคอนโดออนไลน์ จนประสบความสำเร็จและสร้างยอดขายคอนโดผ่าน e-Commerce ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้กว่า 3,500 ล้านบาท

“ปี 2567 วางเป้ายอดขายคอนโดผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce รวมที่ 800 ล้านบาท พร้อมสานต่อกลยุทธ์ Live Commerce กับโปรเจคใหม่ Have a Nice Deal ดีจัดๆ พฤหัสบดีลลล 🙂 รายการไลฟ์สด ที่รวบรวมสาระและความสนุกเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในทุกแง่มุม มาพร้อมกับดีลคอนโดที่น่าสนใจ ทำให้ผู้รับชมได้รับทั้งความรู้ด้านอสังหาฯ และสามารถเป็นเจ้าของคอนโดคุณภาพจากแสนสิริในราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย”

นายองอาจ กล่าวว่า เทคโนโลยีการค้าออนไลน์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และเทรนด์ AI ที่กำลังพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ สอดคล้องกับการเติบโตของ Live Commerce ซึ่งทางแสนสิริได้นำเทคโนโลยี Chatbot AI มาใช้กับ LINE Official Account ของแบรนด์คอนโดมิเนียมเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดี ตลอดจนอำนวยความสะดวกยิ่งขึ้นในการสอบถามข้อมูลของโครงการ และจากการเก็บข้อมูลของแสนสิริพบว่า ลูกค้าและผู้สนใจที่เข้ามาจองคอนโดผ่าน e-Commerce เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีความสนใจที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในกลุ่มราคาที่จับต้องได้  

นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยในปีล่าสุด (2565) จัดทำขึ้นโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าการดูถ่ายทอดสดเพื่อซื้อสินค้าและบริการ (Live Commerce) ติด Top 3 ใน 10 อันดับแรกของกิจกรรมออนไลน์ยอดฮิตของคนไทย ตลอดจนจากภาพรวมของ DIGITAL 2024: GLOBAL OVERVIEW REPORT จัดทำขึ้นโดย Meltwater และ We Are Social พบว่ากว่า 68.3% ของคนไทยใช้ Social Media ซึ่งผู้ใช้งานเหล่านี้เป็นทั้งผู้เสพและผู้ผลิตคอนเทนท์ด้วยเช่นกัน เราจึงเล็งเห็นโมเดล Affiliate Marketing ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจอสังหาฯ ที่ยกระดับให้ครีเอเตอร์เป็นมากกว่ากระบอกเสียงเพื่อสร้าง Word of Mouth แต่จะเป็นโมเดลทางการตลาด เพื่อบอกต่อสินค้าอย่างสร้างสรรค์ และสามารถสร้างรายได้จากค่าตอบแทนตามค่าคอมมิชชั่นหรือตามผลงานที่ได้สร้างขึ้นให้กับแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ”