“ทอท. ”ผนึก TCEB ลุยโครงการ “Thailand MICE Lane One Stop Service” 6 สนามบิน ยกชั้นไทยฮับไมซ์-การบินโลก จ่อเพิ่ม 3 บริการใหม่ “Welcoming” จัดทีมต้อนรับถึงประตูเครื่องบิน“off Check in Airport” เช็คอินตรงได้ที่ศูนย์ประชุมไทย “จัดสต๊าฟภาษา “จีน อินเดีย ดูแลไมซ์
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT หรือ ทอท.” เปิดเผยว่า ทอท.บูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ขับเคลื่อนโครงการหลัก “Thailand MICE LANE One Stop Service” ขณะนี้สนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ได้เปิดเลนพิเศษรองรับนักเดินทางทั่วโลกที่มีจุดประสงค์เข้ามาจัดงาน MICE/ไมซ์ ทั้งประชุมสัมมนา /Meeting การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล /Incentive จัดการแสดงสินค้า/Exhibition และจัดการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่/Convention พร้อมนำเงินเข้ามาใช้จ่ายเงินปานกลางถึงสูงในไทยทุกครั้ง
ทาง ทอท.เล็งเห็นถึงความสำคัญตลาดไมซ์/MICE จากทั่วโลกของทีเส็บได้นำเข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงวางกลยุทธ์บริหารจัดการในแต่ละสนามบินโดยได้จัด “เลนบริการพิเศษ” นำร่องสนามบินละ 1 เลน ต้อนรับนักเดินทางทุกกลุ่มที่ประสานการเดินทางผ่านทีเส็บเพื่อเข้ามาจัดงานไมซ์ในไทยโดยส่งผ่านข้อมูลมายัง ทอท.ก็จะได้รับการดูแลด้วย “VIP Service” โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่หน้าประตูเครื่องบิน ต่อเนื่องไปยังเคาน์เตอร์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สายพานรับกระเป๋า จนถึงขั้นตอนสุดท้ายออกจากสนามบินอย่างสะดวกสบาย เน้นทำงานเชิงบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรมด้านการประสานระหว่างหน่วยงาน ผลักดันนโยบายรัฐบาลเรื่องการขยายฐานตลาดไมซ์และการประชุมนานาชาติจากทั่วโลกมาไทยเติบโตเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ทอท.กำลังร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพัฒนาการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์บริการตรง “บริเวณขาเข้าประเทศ” ด้วยระบบ Auto Gate พิเศษรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้ด้วย สร้างความสะดวกสบายและความประทับใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้ติดตั้งระดับดังกล่าวบริเวณขาเข้าเรียบร้อยแล้ว 12 ประตู เริ่มทดลองให้คนไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ ทดลองใช้อยู่ขณะนี้ หลังจากนั้นก็จะทยอยเปิดให้นักเดินทางประเทศอื่น ๆ เข้ามาใช้มากขึ้น
ส่วน “ขาออกประเทศไทย” ตอนนี้นักเดินทางทั่วโลกที่มาไทย 91 ประเทศ สามารถใช้ระบบออโตเกตในสนามบิน ทอท.โดยเฉพาะพื้นที่นำร่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดตั้งแล้ว 81 เครื่อง สะดวกสบายในทุกการเดินทาง เพราะ ทอท.พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความดวกแก่ผู้โดยสาร ลดขั้นตอนการเข้าออก ลดเวลาการรอคอยตรวจเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วมากที่สุด
ดร.กีรติ กล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ทอท.กับทีเส็บ จะต่อยอดขยายความร่วมมือในมิติอื่นเพิ่มขึ้นอีกหลายกิจกรรมโครงการ โดยได้หารือกันถึงการจัดเพิ่มบริการใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 3 กิจกรรมได้แก่
กิจกรรมที่ 1 “พิธีต้อนรับ :Welcoming” จัดเจ้าหน้าที่สนามบินให้บริการนำพาผู้โดยสารกลุ่มไมซ์เข้าออกประเทศให้ได้เร็วที่สุด
กิจกรรมที่ 2 ประสานงานกับสายการบินนานาชาติ ในระยะยาวกำลังศึกษาแนวทาง Off Airport Check in หรือขั้นตอนการเช็คอินสำหรับกลุ่มเดินทางมาประชุม โดยประสานกับทางสถานที่จัดประชุมโดยตรง เช่น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา หรืออิมแพ็คเมืองทองธานี โดยจะพิจารณานำร่องกับกลุ่มประชุมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนคนมาก ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มดังกล่าว ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการกระเป๋าเดินทาง กับระยะเวลารอในสนามบินลดขั้นตอนสั้นลงด้วย ภายใต้มาตรฐานแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปตามหลักสากล
รวมถึงหลังจากเปิดให้บริการ MICA LANE ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้สักระยะ ก็พบจุดเด่นที่นักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวนมากต้องการมากขึ้น โดยได้สอบถามเรื่องขั้นตอน วิธีการ การเตรียมตัว และสิทธิประโยชน์ ซึ่งทางทีเส็บได้ประสานโดยการให้ข้อมูลและทำประชาสัมพันธ์ ตอนนี้มีไมซ์ใช้บริการเป็นประจำ ได้แก่ ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศแถบยุโรป
ขณะเดียวกัน ทอท.ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนคนที่เดินทางมาในฐานะไมซ์ ซึ่งพร้อมจะทำหน้าที่เป็น “เจ้าบ้านที่ดี” เพียงแค่ประสานงานผ่านทีเส็บมายัง ทอท.ก็จะได้รับการอำนวยความสะดวกครบทุกขั้นตอน
ดร.กีรติ กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้นำองค์กร ทอท.คุ้นเคยและรู้จักทีเส็บเป็นอย่างดี ในฐานะหน่วยงานหัวหอกที่มีบทบาทพัฒนาตลาดกลุ่มนักเดินทางศักยภาพสูงจากทั่วโลกนำเงินเข้ามาจัดงานประชุมขนาดใหญ่ระดับนานาชาติในไทย มีทั้งอีเวนต์จัดการแสดงสินค้าของโลก ประการสำคัญ ทอท.และทีเส็บยังได้จัดประชุมทุก ๆ 2-3 เดือน เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางบริการ กรอบความร่วมมือ รองรับนักเดินทางไมซ์ นักธุรกิจกึ่งท่องเที่ยวด้วย
ตามแผนปี 2568 ทอท.พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับทีเส็บตามนโยบายของ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี มอบให้ทุกองค์กรขับเคลื่อนนโยบายพร้อมรองรับนักเดินทางกลุ่มขนาดใหญ่ที่เดินทางเข้าเมืองไทย เพื่อมาจัดประชุม สัมมนา ทอท.จึงจัดเวทีหารือกับทางทีเส็บเพื่อวางแผนให้บริการตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น นักเดินทางจากตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย จะจัดเจ้าหน้าที่ประจำสนามบินสื่อสารภาษาของทั้ง 2 ประเทศ ไว้ต้อนรับและอำนวยความสะดวกทุกการเดินทาง เพื่อให้เกิดความรู้สึกประทับใจ ดึงดูดตลาดประชุม สัมมนา ไมซ์ หลั่งไหลเข้ามาไทยตามนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี
ส่วนการตอบโจทย์นโยบายเพื่อจะยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค หรือ Aviation Hub นั้น ทอท.จะต้องขยายความร่วมมือทำงานเชิงบูรณาการกับอีกหลายหน่วยงาน นอกเหนือจากทีเส็บแล้ว ก็ยังมี สตม.ศุลกากร กระทรวงการต่างประเทศ รวมไปถึงกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และทุกคน เดินทางเข้าออกประเทศผ่านสนามบินอย่างราบรื่น
เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีกฎระเบียบที่เข้มงวด ดังนั้นทาง สตม.กำลังช่วยพิจารณาเพิ่มระบบอัตโนมัติมากขึ้น และทางกรมศุลกากรก็ได้ทำงานร่วมกับ ทอท.นำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติเข้าไปตรวจจับกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร ทำให้ลดคิวการรอลงไปได้มาก แล้วยังสามารถรักษาความถูกต้องตามกฎหมายเข้าออกประเทศไว้ได้ แล้วประชาชนก็เดินทางสะดวกมากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่หน่วยงานอื่น ๆ หน่วยกักกันโรค กระทรวงสาธารณสุข หันมาร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ประสิทธิภาพ นับเป็นการเดินมาตรงเป้าหมายและถูกทางแล้ว
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บิ๊ก AOT ยัน สนามบินเชียงรายยังเปิดใช้เป็นศูนย์ช่วยเหลือ 2 เรื่อง