ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เตือนพร้อมขอความร่วมมือหน่วยงาน-ประชาชน ที่กิจกรรมปล่อยโคมลอย อาจเป็นอันตรายต่อการทำการบินได้ ทำผิดฝ่าฝืน มีบทลงโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากมีการทำให้อากาศยานเสียหาย ไม่สามารถทำการบินได้ ระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 15 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัย ในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการจุดปล่อยโคม ขออนุญาตเจ้าพนักงานของรัฐก่อน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือเทศกาลยี่เป็ง ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 หน่วยงานหรือประชาชนในบางพื้นที่อาจมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการทำการบินได้
ดังนั้น ในส่วนของ AOT ผู้บริหารท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอย้ำเตือนอันตรายจากการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง
รวมถึงการปล่อยโดรน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน ได้แก่ เครื่องบินสูญเสียการควบคุม ทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ หรือหากเข้าเครื่องยนต์หรือโดนถังน้ำมันเครื่องบิน อาจเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง บดบังทัศนวิสัยของนักบินและรบกวนสมาธิของนักบิน
ตลอดจนการฉายลำแสงเลเซอร์ขึ้นบนท้องฟ้า (Laser Beam) ซึ่งรบกวนสายตาของนักบิน โดย ทอท. จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการจุด และปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ตามมาตราที่ 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 ได้ห้ามไว้
หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษสูงสุด คือจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการทำให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนไม่สามารถทำการบินได้หรืออาจเกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการจุด และปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ จะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการขออนุญาตปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆ ล่วงหน้า
ทั้งนี้ กรณีผู้ประสงค์จะขออนุญาตทำการบินอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ที่อยู่ในรัศมี 9 กิโลเมตร จากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งของสนามบิน ต้องได้รับการอนุญาตจากสนามบินตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตรจากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นิยมปล่อยโคมลอย โดยในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศบริเวณใกล้เคียง ทชม.และ ทชร.และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) ไม่อนุญาตให้ปล่อยโคมลอยไม่ว่าช่วงเวลาใด ซึ่งพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากพื้นที่ดังกล่าว จะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องก่อน
โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดระยะเวลาในการจุดหรือปล่อย คือ สามารถปล่อยโคมลอย โคมไฟได้ในวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 19.00 – 01.00 น. และปล่อยโคมควัน (ว่าวฮม) ได้ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น.
สำหรับจังหวัดเชียงรายสามารถปล่อยโคมลอยได้ในวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 21.00 – 01.00 น. และปล่อยโคมควันได้ระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น.
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ ดังนั้น ระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2567 มีสายการบินแจ้งยกเลิกเที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน ณ ทชม. จำนวน 154 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินที่ยกเลิก 66 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลา 88 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567) อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลลอยกระทง มีสายการบินขอทำการบินเที่ยวบินพิเศษ ณ ทชม.เพิ่มเติม 16 เที่ยวบิน
นายกีรติ กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานของ AOT ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีไทย โดยได้ตกแต่งพื้นที่และสร้างบรรยากาศช่วงเทศกาลลอยกระทงภายในอาคารผู้โดยสาร เช่น กิจกรรมลอยกระทง กิจกรรมประกวดนางนพมาศ และจัดซุ้มถ่ายภาพ ซึ่งจะเป็นการสร้างความประทับใจ และเผยแผ่ประเพณีที่งดงามของประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บขส. ชวนนั่งรถทัวร์เที่ยว “ลอยกระทง ลงแอ่วเหนือ” ลดค่าโดยสาร 10%