มท.1 มอบนโยบายทำงบปี 67 ย้ำให้สอดคล้องนโยบายรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

มท.1 มอบนโยบายทำงบปี 67 ย้ำให้สอดคล้องนโยบายรัฐบาลนำกรอบเเนวความคิดสร้างสรรค์มาใช้ควบคู่การทบทวนข้อบกพร่องที่เคยเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนา

  • ตอบสนองความต้องการของประชาชน
  • ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน
  • เมื่อตั้งเป้าหมายไว้แล้วต้องไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้”

วันนี้ (4 ต.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงมหาดไทย โดยนายทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมมอบนโยบาย โดยมี นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายอนุทินกล่าวว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นกระบวนการที่หน่วยงานภาครัฐคุ้นเคยดีอยู่แล้ว สำหรับการจัดทำคำของบประมาณปี 2567 ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทย นำกรอบเเนวความคิดสร้างสรรค์มาใช้ควบคู่การทบทวนข้อบกพร่องที่เคยเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนา สิ่งใดที่เคยทำไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำซ้ำอย่างเป็นอัตโนมัติด้วยความเคยชิน เพราะโลกในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และยังมีวิธีที่จะทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้เสมอ

กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการทำงานยึดหลัก “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” พัฒนาตัวเองควบคู่กับพัฒนาการที่เกิดขึ้นในโลก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบหน่วยงานที่มีภารกิจลักษณะคล้ายคลึงกับกระทรวงมหาดไทยในประเทศอื่น ได้มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกเเละลดขั้นตอน ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงานได้เป็นอย่างมาก สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์และความต้องการของพี่น้องประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นี้ จะต้องนำนโยบายของรัฐบาลมาบูรณาการให้เกิดเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ทั้ง 10 นโยบาย คือ 1) การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ 2) น้ำดื่มสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน 3) การลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ 4) ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด 5) การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล 6) การบริการประชาชนแบบ One Stop Service 7) การอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว 8) การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย 9) การแก้ไขปัญหายาเสพติด และ 10) สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ และการเตรียมความพร้อม ท้องถิ่นรองรับสังคมผู้สูงอายุ” นายอนุทินฯ กล่าว

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายอนุทินกล่าวว่า การจัดทำงบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ภาพรวมภารกิจมีความสอดคล้องและครอบคลุมนโยบาย ทั้ง 10 ประการ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะต้องจัดทำรายละเอียดคำของบประมาณไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณสามารถสนับสนุนทั้งยุทธศาสตร์ บุคลากร และอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ได้ตามความต้องการของแต่ละหน่วยงานอย่างบูรณาการร่วมกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนของการใช้จ่ายงบประมาณ และสิ่งสำคัญจะต้องมีการรักษาวินัยทางการคลังด้วย เพราะเมื่อตั้งเป้าหมายไว้แล้วต้องไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” และการจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้นั้น ก็เริ่มได้จากการวางแผนที่ดี ซึ่งงบประมาณประจำปีนี้ จะทำให้ท่านและทีมงานมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามแผนงานให้สำเร็จต่อไป

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

“ทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดของเรา คือ ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งหมายถึงผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และอาสาสมัครต่าง ๆ เราจะต้องพัฒนาบุคลากรของเราให้มีศักยภาพสูงอยู่เสมอ และให้มีแรงจูงใจในการทำงาน ด้วยการฝึกอบรม ส่งเสริมสวัสดิการ และค่าตอบแทนต่าง ๆ ให้บุคลากรของกระทรวงมหาดไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความสะดวก ทันสมัย เพื่อให้ทุกคนได้มีทั้งความสุขและความสนุกในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณได้คำนึงถึง 3 มิติ คือ Agenda-Function-Area คำนึงถึงเป้าหมาย หน้าที่ และพื้นที่ เพื่อลดความซ้ำซ้อน และใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายอนุทินกล่าว

ช่องทางติดตาม The Journalist Club