แอร์บัสตีปีก“ อินดิโก ” สายการบินอินเดีย สั่งซื้อฝูงบิน A350-900 ล็อตใหญ่ 30 ลำ ผนึกกลยุทธ์ ขึ้นผู้นำตลาดบินโลก ข้ามภูมิภาค อินดิโก ชูนวัตกรรมใหม่เซฟน้ำมัน 25% ลดปล่อยคาร์บอน 5 เดือนแรกปี 67 อินเดียเที่ยวไทยติด 1 ใน 5 กว่า 1.72 แสนคน
นายเบอนัวต์ เดอ แซงเต็กซูเปรี รองประธานฝ่ายขายเครื่องบินพาณิชย์ แอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า ล่าสุดอินดิโก/IndiGo สายการบินขนาดใหญ่สุดของอินเดีย ได้ยืนยันคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ 350-900 ล็อตใหญ่ 30 ลำ รองรับแผนขยายเครือข่ายธุรกิจการบินเส้นทางระหว่างประเทศไปยังจุดหมายปลายทางระยะทางไกลได้
ทางแอร์บัสจึงขอขอบคุณทีมงานผู้ร่วมเจรจาจนทำให้ข้อตกลงด้วยคำสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างครั้งแรกที่ จะเปิดฉากกับพันธมิตรใหม่ ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้นำเครื่องบินตระกูล A320 เจนเนอเรชั่นใหม่ประหยัดเชื้อเพลิงซึ่งเป็นปฏิวัติการเดินทางทางอากาศเข้าสู่ตลาดอินเดียสำเร็จ ตอนนี้ก็นำเครื่องบิน A350 ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จแบบเดียวกัน เพื่อให้บริการเส้นทางการบินระยะไกลต่อไป
ซึ่งทางแอร์บัสกับอินเดียมีความผูกพันกันมานานกว่าครึ่งทศวรรษ สามารถทำตลาดการขายผลิตภัณฑ์ และบริการช่วยกระตุ้นการเติบโตภาคการบินพลเรือนของประเทศ นำโดยเครื่องบินตระกูล A320 ในอินเดียได้เปิดกว้างและทุกคนเข้าถึงมากยิ่งขึ้น ส่วนเครื่องบิน A350 ก็จะช่วยปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตลาดการบินระหว่างประเทศให้สายการบินต่าง ๆ ทั่วอินเดียได้เป็นอย่างดี
นายปีเตอร์ เอลเบอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินอินดิโก กล่าวว่า การลงนามคำสั่งซื้อฝูงบินแอร์บัส A350-900 ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่จะก้าวสู่สถานการณ์ใหม่ในการจะกำหนดอนาคตอุตสาหกรรมการบินในอินเดียไปด้วยกัน เมื่ออินดิโก้บุกเบิกน่านฟ้าอินเดียสำเร็จด้วยบริการการเดินทารูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนกับฝูงบินแอร์บัส A350-900 มากถึง 30 ลำ จะสามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำการบินโลกได้อย่างภาคภูมิใจในฐานะสายการบินยอดนิยมของอินเดีย พร้อมจะบินเชื่อมต่อทั้งภายในอินเดีย และระหว่างประเทศให้กับลูกค้าเดินทางอย่างสะดวกสบาย
สำหรับอินดิโกเป็นหนึ่งในสายการบินที่น่าจับตาเนื่องจากนำธุรกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลก เป็นลูกค้ารายใหญ่สุดที่ใช้เครื่องบินแอร์บัสตระกูล A320 ต่อไปจะมีฝูงบิน A350 ลำตัวกว้าง ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและประสิทธิภาพมากสุดในโลก ความจุ 300 – 410 ที่นั่ง/ลำ การออกแบบใหม่หรือ Clean Sheet Design ของ A350 ประกอบด้วย เทคโนโลยีล้ำสมัย และหลักอากาศพลศาสตร์
มอบมาตรฐานเหนือกว่าทั้งด้านประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย ใช้เครื่องยนต์เจเนอร์เรชั่นใหม่ และใช้วัสดุพิเศษน้ำหนักเบา ทำให้ A350ลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ถึง 25 % ลดต้นทุนการดำเนินงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เมื่อเทียบกับเครื่องบินในรุ่นก่อนหน้าของผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายอื่น ๆ
ขณะที่อินเดียเป็นตลาดการบินสำคัญ เพราะเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เติบโตอย่างก้าวกระโดด “ประเทศไทย” ก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่สายการบินอิดิโกเปิดบินตรง สถิติล่าสุด 5 เดือนแรก ระหว่างมกราคม- 12 พฤษภาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาเที่ยวเมืองไทยติดท็อปไฟฟ์ หรือ 1 ใน 5 ของต่างชาติเที่ยวเมืองไทย รวมทั้งหมด 722,195 คน
ตามรายงานปี 2567 อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวอินเดียเติบโตแบบก้าวกระโดดเนื่องจากเศรษฐกิจและรายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ทางแอร์บัส จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายยอดขายฝูงบิน A350 ซึ่งเป็นเครื่องบินสมรรถนะ เหมาะสมกับความต้องการของประเทศด้วยบริการเดินทางระยะพิสัยบินไกล รวมทั้งยังได้ ตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีทางการค้าระหว่างอินดิโก กับแอร์บัสที่มีมาต่อเนื่อง และเครื่องบิน A350 ยังจะสามารถทำให้อินดิโกเป็นผู้นำบริการทางอากาศระยะไกลอย่างแท้จริงในอนาคตนั่นเอง
-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
แอร์บัส(อังกฤษ: Airbus) โรงงานผลิต และประกอบเครื่องบินของแอร์บัสกรุ๊ปมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองตูลูสประเทศฝรั่งเศสโรงงานนี้รับผิดชอบในสายงานผลิตเครื่องบินพลเรือน โดยชิ้นส่วนต่างๆที่นำมาประกอบเครื่องบินในโรงงานนี้ ถูกผลิตจากฐานการผลิตย่อยกว่า 16 แห่งในฝรั่งเศสเยอรมนีสเปนจีนสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาโรงงานนี้มีลูกจ้างทั้งหมด 73,958 คน
โรงงานแห่งนี้ก่อตั้งในปี 1970 โดยใช้ชื่อว่าแอร์บัสอินดัสทรี(Airbus Industrie) จากการร่วมทุนโดยบริษัทเอกชน ด้านการบินหลาย ๆ แห่งในยุโรป หวังเป็นคู่แข่ง กับบริษัทผลิตเครื่องบินของสหรัฐอเมริกาอย่าง โบอิง แมคดอนเนลล์ดักลาส
โดยเครื่องบินแบบแรก ที่ถูกผลิตขึ้นจากโรงงานนี้คือแอร์บัส เอ300ซึ่งขึ้นบินครั้งแรกในปี 1972 ถือเป็นเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างสองเครื่องยนต์ลำแรกของโลก
แอร์บัส เอ350 (อังกฤษ: Airbus A350) เป็นอากาศยานขนาดกลางลำตัวกว้าง แบบใช้เครื่องยนต์ 2 ตัว มีพิสัยบินระยะไกล พัฒนาโดยแอร์บัส เอส.อาร์.เอส. เพื่อแข่งขันกับ โบอิง 777 และโบอิง 787 ทั้งนี้เพื่อทดแทนรุ่น เอ 330 และเอ 340
เช่นกัน แอร์บัส เอ350 นั้นถือเป็นอากาศยานที่พัฒนาโดยแอร์บัสรุ่นแรกที่ผลิตมาจากวัสดุผสมจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 280 คน ถึง 366 คน ตามแต่ละรุ่น
ในการริเริ่มการพัฒนาในช่วงแรกใน ค.ศ. 2004 นั้น มีเพื่อใช้ส่วนประกอบใหม่ที่มีอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น โดยตั้งใจมาติดตั้งกับลำตัว และเครื่องยนต์ของเครื่องบินรุ่น เอ330 ตามแต่เดิม ต่อมาในปี ค.ศ. 2006 ทางแอร์บัสจึงได้เริ่มพัฒนาอากาศยานรุ่นใหม่อย่างจริงจังอันเป็นผลมาจากความต้องการของตลาด โดยตั้งชื่อว่า เอ350 เอ็กซ์ดับบลิวบี (XWB) ซึ่งย่อมาจาก Extra Wide Body หรือ ลำตัวกว้างพิเศษ
โดยมีต้นทุนการพัฒนาถึง 11,000 ล้าน ยูโร ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ได้มีคำสั่งซื้อทั้งหมด 858 ลำ จากลูกค้าทั้งหมด 46 รายทั่วโลก เครื่องบินต้นแบบได้ทำการบินเป็นครั้งแรกในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2013 จากเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยจากสำนักงานความปลอดภัยทางการบินแห่งยุโรปในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 และจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติในอีกสองเดือนถัดมา และได้เริ่มทำการบินพาณิชย์เป็นครั้งแรกเมื่อ 15 มกราคม ค.ศ. 2015 กับสายการบินกาตาร์
อ้างอิง : แอร์บัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เริ่มแล้ว! ขยายเวลายกเว้น “วีซ่าฟรี”นักท่องเที่ยวอินเดีย-ไต้หวัน 6 เดือน
