“ธรรมนัส”จัดให้!ไม่ด้อยค่าสาวนาเกลือ ดันSoft power-แก้ปัญหาราคาตก

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย

“ธรรมนัส”จัดให้! ไม่ด้อยค่าสาวนาเกลือ ดันSoft power อนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล พร้อมแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

  • ผลักดันงานส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่นาเกลือทะเลไทยเป็นมรดกทางการเกษตรโลก
  • ประสานกระทรวงวัฒนธรรมจัดท่องเที่ยว พิธีแรกนาเกลือ และประเพณีทำขวัญเกลือ

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ครั้งที่ 2/2566 โดยมีผู้แทนเกษตรกรผู้ทำนาเกลือทะเลจาก 7 จังหวัด เช่น ประธานชุมนุมสหกรณ์เกลือทะเลไทย จำกัด ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรนาเกลือ บางแก้ว จำกัด ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรนาเกลือสมุทรสงคราม จำกัด และคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย เข้าร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้ร่วมกันหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้กับชาวนาเกลือ ซึ่งมักประสบปัญหาราคาตกต่ำในช่วงที่ผลผลิตเกลือทะเลออกสู่ตลาดมากในเดือนช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ของทุกปี โดยได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกันหามาตรการแทรกแซงราคาเกลือทะเล เพื่อให้กลไกราคาปรับตัวสูงขึ้น ให้ราคาที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตของเกษตรกรชาวนาเกลือ รวมถึงพิจารณาหาแนวทางในการส่งเสริมเกษตรกรให้มียุ้งฉาง สามารถผลิตเกลือแล้วเก็บไว้ได้ เพื่อรอราคาหรือการปรับปรุงคุณภาพผลผลิตให้ได้คุณภาพให้เป็นไปตามที่ตลาดต้องการ

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาเกลือทะเลในประเทศตกต่ำ นอกจากปริมาณการผลิต ความต้องการของตลาดแล้ว ยังรวมถึงปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศ โดยเกษตรกรจะเริ่มเตรียมแปลง คือ การเอาน้ำเข้านาตั้งแต่เดือนตุลาคม และจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเก็บเกี่ยวสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยช่วงที่ผลผลิตเกลือทะเลจะออกมาก คือ ในเดือนเมษายน – พฤษภาคม ผลผลิตเกลือทะเลจะมีปริมาณมากที่สุดเป็น 3 – 4 เท่าของช่วงปกติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

ส่งผลต่อราคาขายหน้าฟาร์มของเกษตรกร โดยราคาเกลือกลางซึ่งเป็นเกลือส่วนใหญ่ที่เกษตรกรผลิตได้ ในช่วงราคาตกต่ำที่สุดเคยลงไปถึง 600 บาท/ตัน ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังต้องประสบปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูง ในขณะที่รูปแบบการผลิตเกลือทะเลซึ่งเป็นการผลิตที่ต้องอาศัยแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะการรับจ้างรื้อและหาบเกลือ ปัจจุบันค่าแรงงานสูงและหายากส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าแรงเป็นต้นทุนหลักด้วย

สำหรับในฤดูกาลผลิต 2565/66 มีเกษตรกรผู้ทำนาเกลือขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 628 ครัวเรือน 2,495 แปลง พื้นที่ประมาณ 23,300 ไร่ ปริมาณผลผลิต 521,000 ตัน ในพื้นที่รวม 7 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร เพชรบุรี สมุทรสงคราม ปัตตานี ชลบุรี  ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี โดยคาดการณ์ปริมาณผลผลิตเกลือทะเล ปีการผลิต 2566/67 จะมีประมาณ จำนวน 692,400 ตัน

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ประสานกับกระทรวงวัฒนธรรมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวงานอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล อาทิ พิธีแรกนาเกลือ และประเพณีทำขวัญเกลือที่จัดเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของเกลือทะเลไทย สร้างขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกรผู้ทำนาเกลือทะเล และเป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริม Soft power พร้อมทั้งเร่งผลักดันการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่นาเกลือทะเลไทยเป็นมรดกทางการเกษตรโลก (GIAHS) เพื่อส่งเสริมในด้านการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวนาเกลือได้อีกทางหนึ่งด้วย