“ธรรมนัส”เคาะแก้ระเบียบส.ป.ก.3ฉบับแปลงเป็น “โฉนดทองคำ”

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.)

“ธรรมนัส” ยันไม่แก้กฎหมายแค่แก้ระเบียบส.ป.ก.3ฉบับแปลงที่ส.ป.ก.4-01เป็น “โฉนดทองคำ” ใช้ชื่อ “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม” พร้อมเปิดทำประชาพิจารณ์แก้ระเบียบ

  • ยืนยัน ทันตาม Roadmap เริ่มแจกโฉนดฉบับแรก 15 ม.ค.67
  • โฉนดเพื่อเกษตรกรรมมีสิทธิไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าโฉนดที่ดินของกระทรวงมหาดไทย

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 6/2566 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ว่า การประชุมในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการยกระดับเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่ประชุม คปก. ครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 11 ข้อ พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณากฎหมายและระเบียบ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อปรับปรุงสิทธิการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งคณะอนุกรรมการได้ประชุมพิจารณาแก้ไขระเบียบ คปก. ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เพื่อเสนอ คปก. พิจารณาในวันนี้

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.)

ทั้งนี้ที่ประชุม คปก. ได้มีมติรับทราบความก้าวหน้าในการแก้ไขระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ ตามที่คณะอนุกรรมการเสนอ ซึ่งถือว่าเป็นความคืบหน้าตาม Roadmap ที่ได้วางไว้ในการยกระดับเอกสารสิทธิเป็น “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม” ซึ่งหลังจากนี้ ส.ป.ก. จะได้นำร่างระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ ไปดำเนินการทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป และจะนำกลับมาให้ คปก. เห็นชอบร่างฉบับสุดท้าย เพื่อให้รมว.เกษตรและสหกรณ์ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และจะเริ่มแจกโฉนดเพื่อเกษตรกรรมฉบับแรกได้ทันวันที่ 15 มกราคม 2567 อย่างแน่นอน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.)

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการได้ดำเนินการปรับปรุงระเบียบ คปก. ภายใต้กรอบแนวทางจำนวน 4 ข้อ ดังนี้

1. เห็นควรกำหนดชื่อเอกสารว่า “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม”

2. กำหนดแนวทางในการเปลี่ยนมือไว้ 2 วิธี คือ การตกทอดทางมรดก และการซื้อขายหรือการจำนองแบบมีเงื่อนไข โดยไม่ใช่การซื้อขายหรือจำนองกับนายทุน

3. กำหนดให้มีการตรวจสอบติดตามการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยกำหนดโครงสร้างการตรวจสอบที่มีทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยอาจแต่งตั้งคณะทำงานหรือคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบติดตามทุก 5 ปี โดยมีคณะกรรมการจังหวัดซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และปฏิรูปที่ดินจังหวัด เป็นฝ่ายเลขานุการ

4.กำหนดให้มีการบูรณาการโดยนำสหกรณ์การเกษตร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่เป็นการสร้างองค์กรใหม่

“สำหรับการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดเพื่อเกษตรกรรมต้องมีเงื่อนไขว่า จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และถือครองทำประโยชน์เกิน 5 ปี ขึ้นไป โดยมอบหมายให้ ส.ป.ก. ทุกจังหวัด เร่งสำรวจตัวเลขว่ามีกี่ราย ทั้งนี้ จะต้องมีแนวทางป้องกันไม่ให้โฉนดตกไปอยู่ในมือของกลุ่มนายทุน โดยจะต้องมีการตรวจสอบทุก 5 ปี ว่าเกษตรกรนำที่ดินไปใช้ประโยชน์จริงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้มีการแก้กฎหมาย แต่เป็นการใช้ระเบียบของ ส.ป.ก. อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุม คปก. อีกครั้ง ในวันที่ 23 พ.ย.66 นี้” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า พี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้และจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน และโฉนดเพื่อเกษตรกรรมนั้นมีสิทธิไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าโฉนดที่ดินของกระทรวงมหาดไทย เพราะนอกจากพี่น้องเกษตรกรจะได้รับที่ดินทำกินแล้ว ส.ป.ก. ยังเข้าไปพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นทั้งถนน แหล่งน้ำ ระบบกระจายน้ำ ระบบไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย เป็นต้น รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การสนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพ และขอเชิญชวนให้เกษตรกรเข้ามาทำประชาพิจารณ์ด้วย