

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยนายสิทธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอเทพสถิตย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย.1 ,และตำรวจภูธรเทพสถิตย์, ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา), ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์ป่าไม้ชัยภูมิ, หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เทพสถิต, อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม, ตรวจสอบ บริเวณป่าด้านทิศใต้บ้านไร่ ท้องที่ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ตามที่มีพลเมืองดีร้องเรียน คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 7 คน ตรวจยึดไม้ประดู่ ,แดง ,นางดำ ,รวมจำนวน 53 ท่อน ปริมาตร 23.49 ลบ.ม. พร้อมรถเครนสิบล้อ 1 คัน รถแทรคเตอร์ 50 แรงม้า จำนวน 1 คัน เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 4 เครื่อง ต่อมามีหนึ่งในผู้ต้องหา นายไกรสีห์ สุวรรณานนท์ ได้นำหลักฐาน สปก.4-01 ก พร้อมอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพื้นที่ตัดไม้ดังกล่าว และได้อ้างเอกสารการขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่าที่ออกในวันที่ 10 มิถุนายน 2556

ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพิสูจน์พบว่า ไม้ที่ถูกลักลอบทำออกนั้น เป็นไม้ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ก่อนที่จะมีการออก เอกสาร สปก.4-01 และนำมาขึ้นทะเบียนสวนป่า ซึ่งไม่สามารถทำได้ตามระเบียบและกฎหมายคณะเจ้าหน้าจึงได้เข้าแจ้งความไว้กับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเทพสถิต ปจว. ข้อ 3 เวลา 23.50 น. ลงวันที่ 21 มกราคม 2564 คดีอาญาที่ 72/64 ยึดทรัพย์ที่ 47/64 พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 ราย
ทั้งนี้ขณะที่คณะเจ้าหน้าได้เข้าจับกุมกลุ่มขบวนการได้มีชายคนหนึ่งออกมาแสดงตนว่า เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สังกัดหน่วยงานแห่งหนึ่งของกรมป่าไม้ ในจังหวัดลำปาง ได้ออกมาปกป้องกลุ่มขบวนการโดยได้สอบถามชุดเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแบบท้าทายว่า ‘ชั้นยศอะไร ใครใหญ่กว่ากันเดียวรู้’ แต่พอภายหลังเห็นท่าไม่ดีใช้จังหวะชุลมุนหลบหนีหายเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่พยายามติดตามตัวแต่ไม่พบตัว หลบหนีไปได้ ทิ้งรถเก่งส่วนตัวไว้ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลการตรวจสอบจากทะเบียนรถทราบภายหลังว่าชื่อ ส.ท.นิยม รักเสนาะ เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า(พร) สังกัดศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ,กรมป่าไม้ มาควบคุมการทำไม้ครั้งนี้ด้วยตนเอง
ล่าสุดนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทราบเรื่องดังกล่าว ได้สั่งการให้กรมป่าไม้ให้จัดการขั้นเด็ดขาด ขยายผลสืบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยให้เอาผิดทั้งวินัย และอาญาให้ถึงที่สุด โดยได้สั่งการให้นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ประสานสั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สปฟ.กปม,ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร ,นายชาญชัย กิจศักดิ์ดาภาพ หน.ชุดพยัคฆ์ไพร ,กำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ,ชุดปฎิบัติการศปป.4.กอ.รมน.,ร่วมขยายผลร่วมกับกับ,นายสราวุธ อุเทนรัตน์ ผอ.สจป 8 (นครราชสีมา), นายมนตรี มะลิทอง ,พร้อมชุดปฎิบัติการของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เพื่อหาตัวนายทุนรายใหญ่ และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีทั้งขบวนการๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการให้เร่งดำเนินคดีอาญาและวินัยให้ถึงที่สุดโดยด่วน โดยชุดปฎิบัติการจะเข้าร่วมกันขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติม