

- ลุยตรวจสอบหมอชิต-สายใต้ใหม่-เอกมัย-หัวลำโพง
- ยันราคาสินค้า-ค่าขนกระเป๋ายังไม่ปรับขึ้น
- ลั่นพบคนฉวยเอาเปรียบประชาชนมีโทษทั้งจำ-ปรับ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ ณ สถานีขนส่งหมอชิต 2 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้าน หรือไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด และส่วนใหญ่ต้องใช้บริการรถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟ รวมถึงต้องมีการซื้ออาหารและเครื่องดื่มภายในสถานีขนส่งต่างๆ นั้น กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดเพิ่มเติมจากการออกตรวจสอบที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว รวมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่งและสถานีรถไฟ เช่น ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของบริการรถเข็นสัมภาระ ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการอย่างชัดเจน


นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้คิดค่าสินค้าและบริการให้ตรงกับป้ายราคาที่แสดงไว้ เพื่อป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าและบริการสูงเกินสมควรในช่วงเทศกาลที่มีประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง ขณะเดียวกัน กรมยังได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบผู้จำหน่ายสินค้า และผู้ให้บริการตามสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งอื่นๆ ด้วย เช่น สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ สถานีขนส่งเอกมัย สถานีรถไฟหัวลำโพง

“จากการตรวจสอบพบว่า ราคาสินค้าและบริการยังปกติ ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด อย่างราคาอาหารตามสั่ง เช่น ข้าวกระเพราหมู-ไก่ จานละ 40-45 บาท ข้าวราดแกง 40-45 บาท ก๋วยเตี๋ยว/ราดหน้า จานละ 40-45 บาทเช่นกัน ถ้าพิเศษจานละ 50 บาท ส่วนค่าบริการขนส่งกระเป๋า ได้รับการยืนยันจากผู้บริหารบขส.ว่า ยังไม่มีการปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม หากประชาชนถูกเอารัดเอาแปรียบ หรือเห็นพฤติกรรมผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาขายสินค้า แจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 หรือแจ้งเจ้าหน้าที่จขนส่งได้ทันที เพราะเราได้ประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากตรวจสอบพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน”

สำหรับกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบรการ จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 โดยมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

