- นำร่อง 8 จังหวัด ก่อนขยายเป็น 26 จังหวัด
- กลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
- ผู้กังวลว่าจะเป็นมะเร็ง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในต้นปี 2564 กรมการท่องเที่ยว ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเปิดเส้นทางกัญชาทางการแพทย์ โดยอยู่ระหว่างการออกเกณฑ์การเข้าเยี่ยมชมพื้นที่เพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเปิดขายแพ็คเกจทัวร์เส้นทางกัญชาทั่วประเทศ ในพื้นที่ที่มีความพร้อมในการเพาะปลูก ใน 8 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชลบุรี สมุทรสงคราม ลำปาง แม่ฮ่องสอนและพัทลุง
“ประมาณครึ่งปีหลัง 2564 จะเปิดกัญชา เอ็กซ์โป ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแนะนำให้ผู้ที่สนใจ เข้าชมและศึกษาประโยชน์ของกัญชา โดยจะพัฒนาเส้นทางที่เพาะปลูกกัญชาเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ให้ผู้สนใจ อาทิ วัยรุ่น ผู้ที่กังวลว่าจะเป็นมะเร็ง หรือผู้ป่วยมะเร็งให้เข้าชมและรับฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกัญชาทางเลือกในการรักษามะเร็ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกเกณฑ์การเข้าเยียมชมพื้นที่เพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเปิดทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯขายแพ็คเกจทัวร์เส้นทางกัญชาเบื้องต้นนำร่อง 8 จังหวัด อนาคตอาจขยายเป็น 26 จังหวัดทั่วประเทศ ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายปลูกกัญชา”
เบื้องต้นจะมีการทําคู่มือ แนวทางการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับ นวดไทย สมุนไพร และกัญชาทางการแพทย์แผนไทย สําหรับผู้ประกอบการและหรือมัคคุเทศก์ ในพื้นที่เมืองสมุนไพร และ พื้นที่ปลูกกัญาชาทางการแพทย์ ส่วนเส้นทางสมุนไพร จะเริ่มนำร่องที่ 5 จังหวัดแรก ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก อุดรธานี สุราษฎร์ธานี และ สงขลา เช่น จังหวัดพิษณุโลก มีเส้นทางการทองเที่ยว วัดใหญ่-เร้นท์ฟอเรสท์-วนธารา-มีสุขแลนด์ เป็นต้น
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ช่วงที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ยังต้องรอวัคซีน รอการกลับมาของนักท่องเที่ยว สิ่งที่ต้องดำเนินการคือเรื่องการปรับตัว ให้สามารถเตรียมรับการกลับมาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังโควิด-19 มีการจัดการได้และทั่วโลกอยู่กับมันได้ซึ่งก่อนหน้าที่จะโควิด-19 อุตสาหกรรมโรงแรมมีห้องเกินความต้องการอยู่จำนวนมาก และทั้งหมดมีประมาณ 30% ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นโรงแรมถูกต้องตามกฏหมาย ต้องยอมรับโรงแรม จำนวนมาก โดยเฉพาะในภูเก็ต สมุย มีการบุกรุกป่า รุกที่ส.ป.ก. กลุ่มนี้ต้องเร่งดำเนินการหารือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เพื่อหาทางออกร่วมกันแต่ถ้าเป็นโรงแรมที่ผิดกฏหมาย บุกรุกป่าจริงก็ต้องยอมรับสภาพต้องออกจากระบบไป ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งสำรวจ เพื่อง่ายต่อการดูแล หากเกิดวิกฤต เพราะหลังจากเกิดวิกฤตโควิต รัฐบาลก็พยายามช่วยเหลือ แต่กลุ่มโรงแรมผิดกฏหมายที่มีจำนวนมาก ก็จะเข้าไม่ถึงการดูแลของภาครัฐ
