กลุ่มธุรกิจ TCP รวมพลคนรุ่นใหม่ นำอาสาสมัคร TCP Spirit เรียนรู้ “บ้านตุ่นโมเดล” จ.พะเยา ต้นแบบการจัดการน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน



  • เรียนรู้ถึงความสำคัญของการจัดการทรัพยากรน้ำ
  • การทำประปาภูเขาซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านท้องถิ่น
  • หวังส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

วันนี้ (18 พ.ย.2563) นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า นอกจากวิกฤตโควิด-19 อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือ วิกฤตภัยแล้งที่รุนแรงและยาวนานที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ผลผลิตการเกษตรเสียหาย ไปจนเกิดการขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค ในฐานะที่กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำของไทยซึ่งใช้น้ำเป็นเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิต

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ อาสาสมัครคนรุ่นใหม่ จะได้มีโอกาสเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติในพื้นที่จริง เพื่อที่จะได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการบริหารและจัดการทรัพยากรน้ำผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ถึงความสำคัญของการจัดการทรัพยากรน้ำ การศึกษาเส้นทางธรรมชาติเพื่อทำความรู้จักกับโครงสร้างของป่าไม้ต้นน้ำ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้น การแก้ไขปัญหาและแนวทางแห่งความสำเร็จ การลอกลำเหมือง การทำประปาภูเขาซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านท้องถิ่น รวมถึงการปลูกต้นไม้และจัดการผืนป่าต้นน้ำ เช่น ต้นไผ่ และหญ้าแฝก

สำหรับตำบลบ้านตุ่น จังหวัดพะเยา เป็นพื้นที่ต้นน้ำที่มีความสำคัญ โดยมีต้นน้ำทอดยาวจากยอดดอยหลวง ผ่านที่ลุ่มเกษตรกรรม จนถึงกว๊านพะเยา ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ทางภาคเหนือของประเทศไทยและเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่เป็นชีวิตของคนพะเยา เพราะเป็นแหล่งผลิตน้ำประปา และยังเป็นแหล่งที่อยู่ของปลาหลากชนิด ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำอิงไปรวมตัวกับแม่น้ำโขงในจังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ในอดีตลำห้วยตุ่นประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำเกษตรกรรมรวมถึงน้ำป่าหลากในฤดูฝน อย่างไรก็ตามจากความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชนในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบตลอดระยะเวลา 25 ปี ทำให้ลำห้วยตุ่นกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ และมีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี ทำให้ทุกพื้นที่สามารถทำเกษตรกรรมและมีน้ำใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเพียงพอ ส่งผลให้สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยมีชุมชนและเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากลำห้วยตุ่นถึง 11 หมู่บ้าน หรือ 1,683 ครัวเรือน คิดเป็นจำนวนประชากร 5,462 คน นอกจากนี้ยังได้ขยายผลความสำเร็จสู่ความช่วยเหลือแก่ชุมชนอื่นๆ อีกด้วย

ส่วนอีกไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพในการจัดการน้ำ ประกอบด้วย “แตปากฉลาม” เครื่องผันน้ำไปยังที่สูงโดยไม่ใช้พลังงาน แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของชุมชนที่สูง โดยมีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม ตั้งกั้นบริเวณรอยต่อของลำเหมืองสองสาย เมื่อกระแสน้ำพัดมาก็จะมีแรงดันส่งน้ำส่วนหนึ่งไหลไปยังที่สูงกว่าได้ รวมทั้งยังมี “ต๊างนา” ร่องน้ำที่ใช้ในการลำเลียงน้ำเข้านา และ “ยอยน้ำ” ร่องน้ำที่ใช้ทยอยน้ำออกจากนา

ดร. รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า กิจกรรมครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของการรวมพลังระหว่างชุมชน อพ. สสน. และกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทย ซึ่งหวังว่าการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ตำบลบ้านตุ่นจะได้รับการสานต่ออย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

อย่างไรก็ตามมูลนิธิอุทกพัฒน์ ฯ มีพันธกิจในการสนับสนุนให้ประเทศไทยบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ด้านคุณอเล็กซ์ เรนเดลล์ TCP Spirit Brand Ambassador และทูตสันถวไมตรี โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ คนแรกของประเทศไทย กล่าวว่า การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต้องเริ่มต้นจากต้นตอของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ไม่ว่าจะภัยแล้งหรือน้ำท่วม จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้นน้ำเช่นกัน การเป็น TCP Spirit Brand Ambassador ถึง 3 ปีทำให้ผมได้เรียนรู้โดยตรงจากผู้ที่พัฒนาการบริหารจัดการแหล่งน้ำในชุมชน รวมถึงประสบการณ์ที่ได้ร่วมลงมือแก้ปัญหา และโอกาสที่ได้ส่งต่อพลังความตั้งใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับน้องๆ อาสาสมัคร ซึ่งจะเติบโตเป็นพลังแห่งการดูแลสิ่งแวดล้อมที่สำคัญในอนาคตต่อไป