

- หวั่นรัฐเก็บภาษีทุ่มตลาดฟิล์มบีโอพีพีจากจีน อินโด มาเล
- ทำผู้ใช้เจ็บระนาว ทั้งผู้ผลิตอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ขนม
- ฟิล์มบีโอพีพีจากแหล่งอื่นส่อทะลักเข้าไทยผู้ผลิตในประเทศเจ๊ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากระทรวงพาณิชย์ว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าฟิล์มบรรจุภัณฑ์ไบแอคเซียลลี ออเรียนเต็ด โพลิโพรพิลีน (ฟิล์มบีโอพีพี) ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เตรียมทำเรื่องร้องเรียนต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) เพื่อให้พิจารณาการเปิดไต่สวนและการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) อย่างรอบคอบ เพราะจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้ฟิล์มบีโอพีพีเป็นวัตถุดิบ ที่จะมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงผู้บริโภค ที่จะต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น นอกจากนี้ ยังจะขอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหอการค้าไทย ช่วยเหลือและดูแลกรณีนี้ด้วย
สำหรับสาเหตุที่คัดค้านการขึ้นภาษีเอดี เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ฟิล์มบีโอพีพี ทั้งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน เทปกาว สติกเกอร์ เคลือบกระดาษ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ ของใช้ส่วนบุคคล ของใช้ในครัวเรือน และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจปีละกว่า 100,000 ล้านบาทจะได้รับผลกระทบ และหากมีผลกระทบ หรือไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จะส่งผลต่อการจ้างงาน เกิดปัญหาแรงงานตกงานเพิ่มขึ้นได้
โดยสินค้าที่จะได้รับผลกระทบ หากฟิล์มบีโอพีพีถูกขึ้นภาษี ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในประจำวัน และส่วนใหญ่มีราคาไม่สูงมาก เช่น ซองใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซองขนมปัง ซองขนมขบเคี้ยว ซองลูกอม ซองใส่หน้ากากอนามัย ซองใส่ถุงมือ ซองใส่เสื้อผ้า ซองใส่ถุงยางอนามัย ซองใส่ผงเกลือแร่ ซองใส่เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ฉลากน้ำดื่ม ฉลากน้ำมันพืช เป็นต้น
ขณะเดียวกัน กลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติก ยังเห็นอีกว่า การเรียกเก็บภาษีเอดีจากฟิล์มบีโอพีพี ที่นำเข้าจากทั้ง 3 ประเทศเพื่อปกป้องผู้ผลิตฟิล์มบีโอพีพีในประเทศ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการนำเข้านั้น ถือเป็นการปกป้องผลประโยชน์ให้กับผู้ผลิตสินค้านี้ในไทย ที่มีเพียงรายเดียว ไม่ใช่เป็นการปกป้องอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกอบการมากรายที่ได้รับผลกระทบ และที่สำคัญ จะทำให้ฟิล์มสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศอื่น นอกเหนือจาก 3 ประเทศนี้ ทะลักเข้ามาขายในไทยได้ ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตฟิล์มบีโอพีพีของไทย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนก.ค.63 ทตอ. ได้เห็นชอบให้กรมการค้าต่างประเทศ เปิดไต่สวนเอดีสินค้าฟิล์มบีโอพีพี เกรดทั่วไป ที่นำเข้าจากจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ตามที่บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตในไทยยื่นคำขอ เพราะพบว่า มีพยานหลักฐาน ที่แสดงให้เห็นว่า คำขอมีมูลเกี่ยวกับการทุ่มตลาด และความเสียหายจริง โดยปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก และสินค้าที่นำเข้ามีผลกระทบต่อราคาขายในประเทศ และกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทผู้ร้อง ซึ่งจะใช้เวลาในการพิจารณาไต่สวนประมาณ 1 ปี จึงจะทราบผลว่า จะเก็บอากรเอดีกับสินค้าจากทั้ง 3 ประเทศในอัตราเท่าไร