จับตาปฏิบัติการยึดที่ดิน ส.ป.ก.คืนจากโรงแรมหรูกว่า 200 แห่ง



  • “ธรรมนัส” ยันแก้ระเบียบส.ป.ก.ไม่เอื้อนายทุน
  • ลุยแก้ปมใช้ดุลพินิจ
  • มั่นใจดีกว่ากฏหมายเดิมครอบจักรวาล

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์. กล่าวว่า ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เรื่องรายการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกันกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯกำหนดตามมาตรา 30 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน(ฉบับที่7)พ.ศ.2532 พ.ศ.2563
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2563 ตามที่ คปก.เสนอให้ปรับปรุงระเบียบปฏิบัติ เพื่อเป็นการแก้ปัญหา การใช้ดุลพินิจที่เกินขอบเขตของกฏหมาย ที่เป็นปัญหาสะสมกันมายาวนาน เพื่อไม่ให้ มีการใช้ดุลพินิจ ตามอำเภอใจ หากตีความตามกฏหมายฉบับเก่า ที่กำหนดเกณฑ์การปฏิบัติไว้กว้างมาก แบบครอบจักรวาล ผู้ปฏิบัติงาน ภายใต้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.)ต้องใช้ดุลพินิจ ทำให้แต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดตีความแตกต่างกันไป ไม่เหมือนกัน

ทั้งนี้ การแก้ระเบียบการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ยืนยันไม่เอื้อนายทุน การเข้ามากำกับดูแล ส.ป.ก. จะน้อมนำพระราโชบาย ร.9 ที่ให้ไว้ตั้งแต่ปี 2518 มาใช้ เพื่อประโยชน์ศแก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน
ขอยืนยันว่าไม่มีการเอื้อนายทุน มีแต่จะทำในสิ่งที่ปกปิดและกระทำผิด กฏหมาย ส.ป.ก. เป็นการแก้ไขให้ถูกต้องให้ตรงกับพระราชบายของพระองค์ผู้ก่อตั้ง คือ รัชกาลที่ 9 ทั้ง 9 ข้อ โดยจะแก้ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ต้องทำให้ครบ

นายวิณะโรจณ์ เลขาธิการ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ส.ป.ก.ได้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของโรงแรม รีสอร์ต ในจังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี วังน้ำเขียว เชียงราย พบมีโรงแรม รีสอร์ต กว่า 300 แห่ง แต่ในจำนวนนี้มีประมาณ 200 แห่งที่อยู่บนที่ ส.ป.ก. ต้องดำเนิน ยึดคืน และรื้อถอน แต่ต้องผ่านกระบวนการ ฟ้องร้อง จนสิ้นสุดก่อน
ส่วนที่ดิน ส.ป.ก.ประมาณ 2 ล้านไร่ ที่มีผู้มีอิทธิพลทางท้องถิ่นและนักการเมืองถือครอง ก็อยู่ระหว่างการรังวัด และเรียกเจ้าของมาเพื่อขอดูเอกสาร ที่ถือครอง ว่าเข้าเกณฑ์ ตามระเบียบของกฎหมาย ส.ป.ก. หรือไม่ ซึ่งระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง นักการเมืองท้องถิ่น อาทิ สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) สมาชิกสภาท้องถิ่น (สท.) ที่ถือครองที่ ส.ป.ก.ไม่ถูกต้อง ได้ขอคืนที่ดินจำนวนมากกว่า 10,000 ไร่แล้ว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเมื่อกฏหมายให้ใช้ดุลพินิจ จึงเกิดการตีความกฏหมายและผลการใช้ดุลพินิจของ คปจ.ที่แตกต่างกันไป 72 จังหวัดที่มีที่ส.ป.ก. ตีความการใช้ประโยชน์บนที่ดิน ส.ป.ก.ออกไปแตกต่างกัน เรียกได้ว่า 72 จังหวัด 72 มาตรฐาน ดังนั้น ส.ป.ก.จึงพิจารณาแล้ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร จึงต้องสร้างกรอบการปฏิบัติงานขึ้นมาให้ชัดเจน เพราะสังคมมีการขยาย บ้านเมืองมีการเติบโต สิ่งอำนวจความสะดวกมีเพิ่มขึ้น ในสังคมของเกษตรกรที่มีที่ดินส.ป.ก.

ทั้งนี้ ประกาศ คปก. ลงวันที่ 28 ต.ค.2563 จึงเป็นการกำหนดกรอบกิจการที่พิจารณาอนุญาตให้ใช้ที่ดินภายใต้กรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ คือ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ เพื่อเป็นแนวทางการใช้ดุลยพินิจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเท่านั้น
การพิจารณาอนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องฯ ยังคงต้องอยู่ภายใต้ระเบียบ คปก. ยืนยันประกาศ ล่าสุด จึงไม่ใช่กฎหมายที่จะเปิดช่อง หรือ เอื้ออำนวยการให้มีการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ไปเพื่อกิจการอื่นที่เอื้อต่อนายทุน ที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายปฏิรูปที่ดินแต่อย่างใด