

- ใช้สูตร 2-1-1-1 เริ่มงวดที่ 16 ธ.ค.เป็นต้นไป
- เล็งเปิดขึ้นทะเบียนรับผู้ค้าสลากฯ เพิ่ม 100,000 คนสิ้นปีนี้
- จ่อพิมพ์สลากเพิ่มมากกว่า 100 ล้านใบ
พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา
โดยให้ปรับสูตรการพิมพ์สลากฯ ให้เป็นแบบคละเลขทั้ง 100 ล้านใบ จากเดิมที่พิมพ์แบบคละเลขอยู่ 67 ล้านใบ และพิมพ์แบบเรียงเลข 33 ล้านใบ โดยเปลี่ยนสูตรการพิมพ์สลากจากเดิม 2-2-1 ซึ่งจะมีสลากเลขซ้ำชุด 2 ใบ 4 เล่ม และสลากใบเดี่ยวเลขไม่ซ้ำ 1 เล่ม ปรับมาเป็นสูตร 2-1-1-1 ทั้งหมด คือ สลากเลขซ้ำชุด 2 ใบ 2 เล่ม และสลากใบเดี่ยวเลขไม่ซ้ำ 3 เล่ม ซึ่งจะมีผลตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามการปรับสูตรการพิมพ์ครั้งนี้จะทำให้การรวมชุดสลากทำได้ยากขึ้น โดยมองว่ามากสุดจะรวมชุดได้ไม่เกินชุดละ 5 ใบ และหากจะรวมมากกว่านั้นก็ทำได้ยากมาก ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นสลากชุดใหญ่ 10-20 ใบ ถูกรางวัลเป็นร้อยล้านบาทจึงแทบจะไม่มี
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศ เข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิซื้อจองสลากฯเพิ่ม 100, 000 คน ในราคาใบละ 70 บาท 40 สตางค์ เพื่อนำไปขายใบละ 80 บาท จากเดิมมีผู้ค้าอยู่ในระบบซื้อจองจำนวน 160,000 คน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขผู้มีสิทธิลงทะเบียนเพื่อเตรียมเสนอบอร์ดสลากฯ พิจารณาในเดือนหน้า โดยคาดว่าจะเปิดรับขึ้นทะเบียนได้ก่อนสิ้นปีนี้
“ผมเชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้ผู้ค้าสลากฯตัวจริง เข้ามาซื้อสลากในราคาต้นทุนมากขึ้น โดยไม่ต้องไปพึ่งพาการซื้อสลากจากพ่อค้าคนกลาง ทำให้สามารถขายสลากได้ตามราคาหน้าใบ ส่วนหากจำนวนผู้ค้าสลากในระบบเพิ่มขึ้น สำนักงานสลากจะพิมพ์สลากเพิ่มขึ้นจาก 100 ล้านใบหรือไม่นั้น ต้องรอดูว่าจะมีผู้ค้ารายใหม่ถึง 100,000 คนที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ แต่ถ้าหากผู้ค้าเพิ่มขึ้น ความต้องการสลากมากขึ้น ก็จะนำเรื่องการพิมพ์สลากเพิ่มมาพิจารณา”