“กรมควบคุมโรค” ชี้แจงกรณีเมียนมาอ้างพบเด็กชาวเมียนมาวัย 2 ขวบ ติดโควิด-19 หลังเดินทางออกจากประเทศไทย



  • ลั่นไล่ตรวจสอบผู้เดินทางผ่านช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ
  • ไม่พบรายงานการผ่านเข้าออกประเทศไทย
  • คาดใช้ช่องทางธรรมชาติ ในการผ่านแดน
  • ด้านนายอำเภอเมียวดีประกาศเคอร์ฟิว
  • พร้อมกักตัวเด็กพร้อมมารดาและพี่สาว เพื่อรอดูอาการต่อไป

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงการได้รับรายงานว่าเด็กอายุ 2 ขวบชาวเมียนมา ได้เดินทางออกจากประเทศไทยพร้อมมารดาในวันที่ 4 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา โดยต่อมามีการรายงานข่าวการตรวจพบการติดเชื้อของเด็กคนดังกล่าวในวันที่ 13 ก.ย.2563 จนเป็นเหตุให้นายอำเภอเมียวดีประกาศเคอร์ฟิวในเวลาต่อมาในวันที่ 14 ก.ย.2563 นั้น ว่า กรมควบคุมโรค ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทั้งจากช่องทางการประสานข้อมูลผ่านกลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulation) ช่องทางการทูต ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) และข้อมูลจากช่องทางเข้าออกระหว่างพรมแดนระหว่างประเทศ

โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบผู้เดินทาง ผ่านช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศอำเภอแม่สอด-เมียวดี ไม่พบว่า มีรายงานการผ่านเข้าออกประเทศไทยของเด็กชาวเมียนมาและมารดาดังกล่าวในวันที่ 4 ก.ย.2563 ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการเดินทางออกไปโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ หรือช่องทางอื่นที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งมีอยู่มากกว่า 50 ช่องทาง และยากต่อการควบคุมการเข้าออก

ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย พระราชทาน ออกค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 8-9 ก.ย. 2563 รวม 2 วัน ตรวจทั้งคนไทยและต่างด้าว จำนวน 2,635 ราย จำแนกเป็น รร.อิสลามศึกษา 1,041 คน เป็นต่างด้าว(มุสลิม) 660 คน คนไทย 381 คน, รร.วังตะเคียน 713 คน เป็นชาวเมียนมา 284 คน คนไทย  429 คน, อบต.แม่กาษา 558 คน เป็นชาวเมียนมา 47 คน คนไทย 511 คน และเรือนจำแม่สอด  323 คน เป็นต่างชาติ 137 คน คนไทย 186 คน ผลไม่พบการติดเชื้อแม้แต่รายเดียว

“กรมควบคุมโรค ขอยืนยันว่าประเทศไทยมีมาตรการเฝ้าระวัง ทั้งการคัดกรองผู้ที่มีอาการทางเดินหายใจ เฝ้าระวังในกลุ่มประชากรเสี่ยง รวมถึงมีการสอบสวนติดตามผู้สัมผัสให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวยังต้องทำการค้นหาข้อมูล โดยการประสานงานทั้งในและระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อมูลแหล่งที่อยู่อาศัยของเด็กและครอบครัว เพื่อค้นหาผู้สัมผัส ทำการตรวจหาผู้ติดเชื้อ และดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่เหมาะสมต่อไป อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ของประเทศเมียนมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องอีกด้วย” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดของประเทศไทย รวมถึงการป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แม้จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายอำเภอเมียวดี ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือเคอร์ฟิว ทันที อาศัยอำนาจตามประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติตามมาตรา 144 ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา จ.มะละแหม่ง ว่าทางศูนย์ควบคุมโรคพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 1 ราย เป็นเด็กอายุ 2 ขวบ เดินทางเข้ามาจากประเทศไทย

ขณะที่นายอูเต่ ส่า อ่อง  ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ก็ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กวัย 2 ขวบ ที่เดินทางมาพร้อมกับมารดา ต้นทางมาจากจังหวัดอยุธยา เข้าเมียนมาใช้ช่องทางสะพานแห่งที่สอง เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2563 และทางการเมียวดีทำการกักตัวไว้ที่ จ.เมียวดี และเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2563 ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่ง 2 แม่ลูก ได้ถูกส่งตัวไปยัง จ.ผาอ่าง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้กักตัวพี่สาวของเด็ก พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในวันดังกล่าว ไว้เพื่อรอดูอาการต่อไป