

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้กำชับให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทรวมถึงผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้มีการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับผู้ประกอบการขนส่งต้องมีมาตรการทางด้านสาธารณสุขและปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานขับรถและผู้โดยสารไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ควบคุมการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด และจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับผู้โดยสารทั้งภายในรถโดยสารและที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร
พร้อมกำชับให้ใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งลงทะเบียนเข้าใช้แอปพลิเคชันไทยชนะหรือแพลตฟอร์มไทยชนะและจัดพิมพ์ QR Code เพื่อให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเช็คอิน–เช็คเอาท์ ทุกครั้งที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ หรือเข้าใช้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร

ในส่วนของ การให้บริการที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง มีการปรับรูปแบบดำเนินการแบบ New Normal ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ จองคิวดำเนินการล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อบริหารจัดการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์การใช้บริการชำระภาษีรถประจำผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดการสัมผัส โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานขนส่ง เช่น แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax หรือเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/
นอกจากนั้นยังมีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิประชาชน ก่อนเข้าอาคารสำนักงาน ส่วนการดำเนินการตามมาตรการ Social Distancing ได้ให้มีการเว้นระยะห่างของที่นั่งพักคอยของประชาชน กำหนดระยะห่างของตำแหน่งการยืนคอยรับบริการ ติดตั้ง Table Shield กั้นระหว่างผู้มาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ส่วนด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในหน่วยงาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ให้บริการภายในสำนักงานขนส่งทุกวัน โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง เช่น เคาน์เตอร์บริการ ที่จับประตู ที่จับราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ เป็นต้น รวมถึงห้องอบรมและห้องทดสอบภาคทฤษฎี และภายในรถที่ใช้ในการทดสอบขับรถด้วย