“ศักดิ์สยาม” สั่งกรมทางหลวง รับมือหลังพายุซัดถนน-สะพานขาดให้ซ่อมแซมประชาชนสัญจรได้ใน24 ชั่วโมง



  • ระดมทุกหน่วยงานในสังกัด รับมือสถานการณ์พายุเข้า เร่งซ่อมแซมสะพาน-ถนนขาดด่วน
  • พร้อมแนะนำทางเลี่ยงกับผู้สัญจร และต้องเกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ด้านทางหลวง เผยฝนตกหนัก น้ำป่าทะลัก “กัดเซาะถนน-คอสะพานขาด” หลายจังหวัด เจ้าหน้าที่เร่งลงหน้างานเข้าแก้ไข

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีหลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.)ในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศได้รับความเสียหาย บางพื้นที่ถนนถูกตัดขาด คอสะพานขาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้นั้น ในเรื่องนี้ได้มีการสั่งการให้กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย และแก้ไขซ่อมแซม ทอดสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็ก) แจ้งประชาสัมพันธ์ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ บอกเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ภายใน 24 ชั่วโมง หรือหากบางพื้นที่จะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยก็ต้องเข้าช่วยเหลืออย่างโดยเร็ว

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า วันนี้ (2 ส.ค. 63) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เลย และอีกหลาย พื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงานว่ามีทางเบี่ยงสะพานขาด 3 จุด  ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอนดอยสะเก็ด – ป่าเมี่ยง ตอน 2 ที่บริเวณ กม.32+260 , กม.32+942 , กม.39+880 และในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอน บ.ปางน้ำถุ – บ.โป่งป่าตอง ตอน 2 ทางเบี่ยงสะพานขาด 2 จุด ประกอบไปด้วย บริเวณ กม.58+679 , กม.61+632 โดยขณะนี้ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 และเชียงรายที่ 1 ได้ส่งเครื่องจักรเข้าพื้นที่แล้ว และเตรียมวัสดุ เพื่อซ่อมแซม และวางท่อเหลี่ยมเพิ่ม  เพื่อคืนสภาพในทุกจุด รวมททั้งการทอดสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) ที่สะพานขาด  คาดว่าจะเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรได้ภายในคืนนี้ 

ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ สำนักงานเขตทางหลวง แขวงทางหลวง ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง พบว่า ทางหลวงได้ถูกน้ำท่วม จำนวน 7 จังหวัด (10 สายทาง จำนวน 17 แห่ง) ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (ทล.118) จังหวัดเชียงใหม่ (ทล.118,ทล.121) จังหวัดน่าน (ทล.101,ทล.1091) จังหวัดลำปาง (ทล.120) จังหวัดเลย (ทล.2108,ทล.2249) จังหวัดหนองบัวลำภู (ทล.210) และจังหวัดมหาสารคาม (ทล.2322) 

โดยทางหลวงที่การจราจรไม่สามารถผ่านได้มี 8 แห่ง ดังนี้ ทล.118 ที่ กม.32+269 ,กม.32+942,กม.39+880 กม.58+679 ,กม.61+632 ทล.121 ที่ กม.4+000  ทล.2018 ที่ กม.0+194 และ ทล.2249 ที่ กม.16+250 

โดยผู้ใช้ทางสามารถสอบถามสภาพการจราจรได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)