

- หวังพลิกวิกฤติโควิด-19ให้เป็นโอกาสกู้ส่งออก
- หันทำคลิปประชาสัมพันธ์สร้างเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อ
- ย้ำอาหารไทยปลอดภัยถูกสุขอนามัยไร้โควิด-19
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ส่งออกอาหารสำเร็จรูป เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาช่วงสถานการณ์โควิด-19 และพลิกวิกฤติโควิด-19 ให้เป็นโอกาสส่งออกสินค้าไทยว่า ที่ประชุมได้กำหนด 10 มาตรการที่จะดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเกษตรกรรวม ในช่วงวิกฤติโควิด-19 และช่วงหลังโควิด-19
สำหรับ 10 มาตรการดังกล่าว เช่น ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลกให้กับผลิตภัณฑ์อาหารของไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำคลิป 10 ภาษาเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารไทย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อต่างชาติ, จะร่วมกับผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูป ทำแผนเปิดตลาดใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูปโดยเฉพาะ โดยเน้นตลาดอาเซียน เอเชีย ตะวันออกกลาง รัสเซียและเครือจักรภพ (ซีไอเอส)

นอกจากนี้ ยังจะเร่งรัดเจรจาจัดทำ ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร, จัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นช่องทางระบายสินค้าด้านการเกษตร, เร่งรัดแก้ไขปัญหาในเรื่องของการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป ทั้งทางอากาศ ทางเรือ ทางบก, เร่งเจรจากับหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ให้ปรับลดภาษีนำเข้าสับปะรดกระป๋อง และเจรจาสหภาพยุโรป ให้ปรับลดภาษีนำเข้าข้าวโพดหวานกระป๋อง เพาะปัจจุบันเก็บในอัตราสูงมาก เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 62 ไทยส่งออกอาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูป 579,000 ล้านบาท หรือ 7.6% ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย โดยไทยถือเป็นผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าวเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกใน 3 สินค้าคือ สับปะรดกระป๋อง มะพร้าวกะทิ และข้าวโพดหวานกระป๋อง ส่วนไตรมาสแรกปี 63 ไทยส่งออกอาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูป 137,756 ล้านบาท

ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ กรมได้จัดทำคลิปโปรโมทสินค้าไทย 10 ภาษาเสร็จแล้ว โดยเน้นกลุ่มอาหาร ผลไม้ เกษตรแปรรูป และได้ส่งให้ทูตพาณิชย์ไทยในประเทศต่างๆ นำไปเผยแพร่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับผู้นำเข้า และบริโภคทั่วโลกในช่วงโควิด-19 เพื่อย้ำให้มั่นใจว่า สินค้าไทยมีกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางมีคุณภาพ สะอาด มีสุขอนามัย และปลอดภัยตามมาตรฐานสากลประกอบด้วย โดยทั้ง 10 ภาษา ประกอบด้วย อังกฤษ, สเปน, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, เช็ค, อาหรับ, ญี่ปุ่น, จีน และเกาหลี