

- ดีอีเอส ผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาแอปพลิเคชั่น “หมอชน”
- นำเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤติโควิด-19
- ดาวน์โหลดแอปเท่ากับบริจาค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอเอส) ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมใจ และร่วมพลัง พัฒนาแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” ร่วมโหลด ร่วมใจ ชนะภัยโควิด-19 เป็นแอปฯเพื่อเก็บข้อมูลการเดินทางของประชาชน สามารถตรวจสอบและประเมินระดับความเสี่ยง จากการไปในสถานที่ต่างๆ ของตัวเอง และสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และช่วยลดการระบาดไวรัสโควิด-19ได้ด้วย โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอป “หมอชนะ” ทั้งบนระบบ iOS และ Android และ QR Code ได้ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2563 นี้เป็นต้นไป ซึ่งการหลดแอปเท่ากับบริจาค เพื่อร่วมกันฝ่่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า การพัฒนา แอป”หมอชนะ”เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเฝ้าระวังตัวเอง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับบุคลากรทางการแทพย์และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แม้จะไม่ใช้แอปฯที่ดีที่สุดในเวลานี้ แต่เชื่อว่าจะเป็นแอปฯ ที่ดีในอนาคต เพราะอาจนำไปสู่การเปิดร้านค้า กลับมาค้าขายตามปกติ ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วย
“แอปฯนี้ ทุกคนมาด้วยใจ มาร่วมกันพัฒนาแอปฯภายใน 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อสังคม และบุคลาการทางการแพทย์ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤติโควิด-19 ไม่ได้ตั้งใจหากำไร หรือหาประโยชน์ ในเชิงธุรกิจ ในเบื้องต้นหากมีดาวน์โหลดใช้กันจำนวนมาก อาจไม่จำเป็นต้องวัดไข้ ณ จุดคัดกรอง หรือด่านตรวจ เพียงแต่ประชาชนโชว์แอปฯหมอชนะ ก็จะรู้ประวัติทันที และขอย้ำว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่กรอกไปในแอปฯ จะเป็นความลับ ไม่ได้นำไปใช้ต่อ ”

นายอนุชิต อนุชิตตานุกุล ตัวแทนทีมพัฒนาร่วมประชาชน เอกชนและภาครัฐ ผู้พัฒนาแอปฯ “หมอชนะ”กล่าวว่า ที่มาของแอปฯนี้เร่ิมจากต้องการช่วยบุคลากรทางแพทย์ ไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้ป่วยที่ปกปิดข้อมูล เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์มีจำกัด หากติดเชื้อ ก็ไม่สามารถมารักษาคนป่วยได้ เราก็ต้องปกป้องทีมแพทย์ไว้ ดังนั้นจึงคิดค้นและพัฒนาแอปฯขึ้นมาเพื่อให้ประชาชน ได้ดาวน์โหลด และกรอกข้อมูล เมื่อเวลาไปพบแพทย์ เพื่อโชว์แอปฯดังกล่าว ไม่ต้องเสียเวลาในการสอบถามประวัติ คนไข้จะได้รับรักษาตรงอาการอย่างถูกต้อง ขณะเดียวกันแพทย์จะได้ระมัดระวังตัวเอง กรณีคนไข้ไปในสถานที่เสี่ยงมา
“ไม่มีอะไรที่จะช่วยบุคลากรทางการแพทย์ได้ ก็เลยรวมตัวกัน นำความรู้ด้านนี้ มาช่วย เพราะระบบจะแจ้งเตือนว่าเราไปที่ไหนมา เราอยู่ใกล้กับกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เราไม่อยากให้สังคมเป็นแบบนี้ ปิดเมือง ปิดห้าง เพราะกระทบเศรษฐกิจ ปิดเมือง แต่ถ้าทุกคนร่วมกัน ดาวน์โหลด แอปฯดังกล่าว อาจนำไปสู่การเปิดร้านค้าได้เร็วขึ้นก็ได้ โดยอีก 1 สัปดาห์ จะมีคิวอาร์โค้ด ให้ร้านค้า เพื่อตรวจเช็คลูกค้าที่มาใช้บริการว่า เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่”