- เปิดคลิปให้ดู ก่อนจะออกเดินทาง แก้ปมดราม่า
- เช่ารถบัส จากวงการท่องเที่ยว จากไฟท์เดี่ยวกันรถบัสเดียวกัน
- เช่าโรงแรมที่ว่างล้นเหลือ ให้อยู่สำหรับคนเฝ้าระวัง14วัน
ผู้สื่อข่าวรางงานว่า วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 5เมย.2020 มีเนื้อหาระบุว่า เหตุการณ์โควิด19 ของโลก จะทยอยบีบให้คนในต่างแดนต้องหาวิธีกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด…ต่อไปเรื่อยๆ คนไทยในต่างแดนก็เลี่ยงไม่พ้น..เช่นกัน และอีกสองวันข้างหน้า…เที่ยวบินต่างๆที่จะมาไทยก็คงบินพาคนไทยและครอบครัวกลับเข้ามาอีก
ผมมีข้อคิดที่อาจช่วยให้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายต่างๆ พิจารณาดังนี้
ข้อ1. กติกาแข็งแรงที่เรายอมรับกันคือทุกคนเข้าถึงแผ่นดินไทยต้องถูกกักตัวเฝ้าระวังดูอาการอีก 14 วัน ดูตัวอย่าง นักบินและลูกเรือก็ได้ปฏิบัติเช่นนี้อย่างกล้าหาญเสียสละและน่าชื่นชมมาโดยตลอด..ซึ่งต้องขอคาราวะ ในการนี้ รัฐอาจเช่ารถบัสปรับอากาศจำนวนมากจากวงการท่องเที่ยวที่ก็รถว่างเต็มทีให้ไปรอรับที่สนามบินทุกเที่ยวบินไว้เลยเพราะในแต่ละเที่ยวบินมีคนมาเท่าไหร่ เราก็ต้องรับไปเฝ้าระวังอาการอยู่แล้ว …ทุกคนไม่มียกเว้น. แบบนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะรอที่สนามบินนานๆเพื่อรอคนเต็มคัน หรือจะคอยเพราะมีรถไม่พอบริหาร การบริหารอารมณ์คนก็จะสะดวกขึ้น
รถว่างๆของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ได้ทำประโยชน์ ขับออกไปส่งหนึ่งเที่ยวก็เอาไปอบน้ำยาฆ่าเชื้อทุกรอบใครถือบัตรที่นั่งเที่ยวบินอะไรมาก็จะได้บัตรรถบัสคันเดียวกันหรือขบวนเดียวกันเพราะการเดินทางร่วมกันตามเงื่อนไขของทุกคนในเที่ยวบินนั้น..ยังไม่จบลง
(ถ้าใครจะห่วงติดเชื้อก็คงติดกันตั้งแต่ตอนบินมาด้วยกันไปแล้วล่ะ)
ใช้เวลานั่งรถไม่นานก็จะได้ไปยืนรายงานตัวลงทะเบียนเข้าอาคารที่กำหนดไว้แล้ว..ไม่ว่าเครื่องจะมาถึงดึกหรือใกล้สว่างแค่ไหน เพราะรถบัสเหล่านี้ มืออาชีพชำนาญการทั้งนั้น
ข้อ2. ใช้การเช่าเหมาชั้น(floor)..เช่าเหมาปีก(wing)..หรือเช่าเหมาทั้งตึกของโรงแรมที่เวลานี้ก็ว่างล้นเหลือ แล้วอาจประกาศแจ้งผู้จะเดินทางตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกบินกลับว่าทุกคนในเที่ยวบินนั้น..จะถูกรับและพาไปโรงแรมอะไร..เมื่อเครื่องลง ทุกคนก็จะสบายใจ..แจ้งบอกญาติได้ ไม่ต้องแห่มาเบียดรอรับที่สนามบิน….ใครจะให้ญาติเอาเสื้อผ้าไปส่งให้เพิ่มก็จะได้โทรกลับบ้านบอกกล่าวกันได้.. เหตุการณ์อย่างที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวานก่อน…จะได้ถูกจัดการได้แบบไม่มีฝ่ายใด ต้องตกเป็นเหยื่อของอะไรให้สังคมกังวลอีก
ข้อ3. คนเดินทางกลับมักพยายามต่อรองหรือเลี่ยงการกักตัวรอดูอาการ ซึ่งก็คงมาจากหลายเหตุผล หนึ่งในเหตุนั้นคือไม่แน่ใจว่าตัวจะต้องถูกบังคับไปเจออะไร ดังนั้นถ้าเราจะสามารถมีคลิป มีภาพให้ดูกันเข้าใจง่ายๆ ว่ากระบวนการ 14 วันนี้. เค้าจะได้รับการดูแลอย่างไร
และเค้ากำลังช่วยชาติช่วยหยุดเชื้ออย่างไร… เผื่อใจไว้ด้วยว่า..การสื่อสารที่ชัด เปิดเผย และอธิบายได้ จะช่วยให้ทุกฝ่ายไม่ต้องระแวงกันและกันนั้น
ในเครื่องบินที่พาคนไทยกลับมา อาจมีคนไทยที่พูดหรืออ่านภาษาไทยไม่ได้เสียแล้ว..อาจมีชาวต่างชาติที่บินมาเพราะมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนรอไม่ได้(ที่สมควรให้เข้าเมืองนะ..ไม่ใช่หนีมาขอการรักษาโรคในไทยเฉยๆ) และไม่เข้าใจภาษาไทยในการสื่อสาร
การเปิดคลิปหรือมีสมุดภาพออนไลน์ให้ดูตั้งแต่แค่คิดจะออกเดินทางจึงช่วยได้ ไม่เกิดดราม่าที่ไม่จำเป็น เราเองก็จะได้สามารถถนอมแรงของฝ่ายกำลัง ที่ยังจะต้องนำไปใช้คุมระเบียบบ้านเมืองในเรื่องอื่นๆได้
ขออวยชัยให้พรและกราบขอบคุณ บุคลากรทุกคนทุกฝ่าย ในการทำหน้าที่ในภาคสนามที่ทั้งยากทั้งเสี่ยง…(และทั้งร้อน)
เรายังต้องพยุงประคองกันไปในห้วงแห่งความสับสนระดับโลกนี้ไป
ส่วนใครที่ไม่ได้มีหน้าที่ในภาคสนาม.. ก็ขอให้ ช่วยกันอยู่กับบ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ มีน้ำใจให้กัน ส่งกำลังใจแก่กัน ช่วยเอื่อเฟื้อแก่กัน ประเทศไทยเป็นครัวโลกมาได้..ผลิตสารพัดสินค้าเครื่องใช้ จนเติมบนชั้นวางของห้างทั่วโลกอย่างหลากหลายมาแล้วเป็นเวลานาน..อัธยาศัยในการต้อนรับขับสู้ของเราก็ไม่เป็นรองใคร
เราอยู่ร่วมกัน “อย่างพอเพียง”ได้แน่ครับ
