ไทย พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มรายวัน วันนี้(11มี.ค.) อีก 6 ราย



  • เผย ผู้ป่วยหลายรายไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน
  • ย้ำความร่วมมือผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้กักตัวสังเกตอาการ

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า สถานการณ์ของโรคในประเทศไทยขณะนี้ ยังไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ผู้ป่วยยืนยันของไทยทราบประวัติการสัมผัสชัดเจน มีหลายกรณีจากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ไม่งดกิจกรรมทางสังคม ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อไปสู่คนในครอบครัว คนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมงาน จึงขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่มีรายงานการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ขอให้แยกตัวเองอยู่ที่บ้าน เฝ้าสังเกตอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่าง

ในวันนี้ (11 มีนาคม ) ผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชายไทย อายุ 25ปี รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร รักษาหายกลับบ้านได้อีก 1 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันจำนวน 6 ราย

รายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 21 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเช้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ เข้ารับการตรวจทีโรพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในกทม.เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 54)

รายที่ 2 เป็น ชายไทย อายุ 40 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นประจำสนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มป่วยวันที่ 7 ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก ปวด ศีรษะ เช้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง (นับเป็นผู้ปวยยืนยันรายที่55)

รายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 25 ปี พนักงานบริษัทเอกชน เริ่มป่วยวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 ตัวยอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. 2 ครั้ง (วันที่ 27 กุมภาพนธ์ และ 2 มีนาคม 2563) ด้วยอาการไข้ แพทย์รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ผลเอกชเรย์พบปอดอักเสบ รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น และหาสาเหตุ ไม่ได้ เช้านิยามการเฝ้าระวัง จึงตรวจทางปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อ ขณะนี้ส่งมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 56)

รายที่ 4 เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ถึงไทยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์
2563 เริ่มป่วยวันที่ 20 กุมภพันธ์ 2563 และเช้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ตัวยอการไช้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดศีรษะ ขณะนี้ ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (นับเป็นผู้ปวยยืนยันรายที่ 57)

รายที่ 5 เป็นชายไทยอายุ 40 ปี เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนเดินทางกลับ (25 กุมภาพันธ์ 2563) ประสบอุบัติเหตุเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น เดินทางกลับถึงไทย 26 กุมภาพันธ์ 2563วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจากกระดูกข้อมือซ้ายหัก ได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลพบเชื้อไวรัสสาเหตุโควิด-19 รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง (นับเป็นผู้ปวยยืนยันรายที่ 58)

และรายที่ 6 ผู้ป้วยชายชาวสิงคโปร์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในกทม. เริ่มป่วยวันที่ 6 มีนาคม ด้วยอาการไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามตัว เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ขณะนี้รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 59)

โดยสรุปวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษหายแล้ว 34 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 24 ราย เสียชีวิต 1 รายผู้ปวยสะสม 59 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ส่วนกรณีพนักงานบริษัทชาวสิงคโปร์ที่มีข่าวว่าติดเชื้อภายหลังเดินกลับจากประเทศไทย เข้ามาพักในประเทศไทยเพียง 1 วันและมีประวัติเดินทางไปหลายประเทศก่อนมาไทย กรมควบคุมโรคได้สอบสวนโรคและเก็บ ตัวอย่างผู้สัมผัสในบริษัทเดียวกัน 81 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ ทั้งนี้ กระทวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคจะร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ จัดเสวนาถอดบทเรียนผู้ป่วยยืนยันและผู้สัมผัส

ส่วนแรงงานไทยนอกระบบจากเกาหลีไต้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบทั้งหมด 241 คน เป็นชาย 104 คน หญิง 137 คน (มาจากเมืองแทกูและดย็องชังเหนือ 8 คน) มีกลุ่มดูแลพิเศษ 29 คน เป็นหญิงตั้งครรภ์ 6 คน เด็กเล็ก 5 คน มีโรคประจำตัว 18 คน ผลการคัดกรองไม่พบผู้อยู่ในเกณฑ์ฝ้าระวัง ทุกคนไม่มีไช

ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทดสอบประสิทธิภาพของหน้ากากผ้าเพื่อทดแทนการใช้หน้ากากอนามัย โดยทดสอบ 3 วิธี คือ ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อศึกษาเส้นใยผ้าในการกันอนุภาค ทดสอบการเป็นขุย ด้วยวิธีการชัก และทดสอบประสิทธิภาพการซึมผ่านของละอองน้ำ พบว่า ผ้ฝ้ยมัสลินมีความเหมาะสมในการ นำมาใช้ทำหน้กากผมากกว่าผ้าชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ชัก ตากแห้งทุกวัน ไม่ใช้มือสัมผัสหน้ากากขณะ สวมใส่ และป้องกันตนเองโดยกินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกใน 115 ประเทศ 2 เขดบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 11 มีนาคม 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 116,657 ราย เสียชีวิต 4,091 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,761 ราย เสียชีวิต 3,136 ราย